ทนาย ‘ผู้กองเหน่ง’ ขอเลื่อนคดีไปอีกสักระยะหนึ่งนัด ศาลอนุญาตนัดไต่สวนใหม่ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ เวลา 09.00 น.
6 ก.พ. 61 ช่วงบ่าย ที่ ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นวันครบกำหนดนัดพร้อม เพื่อตรวจพยานหลักฐาน ทั้ง 2 ฝ่าย และเป็นการนัดเพื่อคุ้มครองสิทธิ์จำเลย ตามกฎหมาย โดยศาลได้เบิกตัวจำเลยทั้ง 4 คน มี ‘ผู้กองเหน่ง’ ร.อ.ศุภชัย ภาโส ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จากเรือนจำอำเภอกันทรลักษ์ ก่อนเวลานัดหมายกว่า 4 ชั่วโมง เพื่อหลีกเลี่ยงสื่อมวลชนและญาติ และลดแรงปะทะ
ซึ่งนายบุญเลิศ อุ่นก่อน และญาติ ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ก่อนเวลานัดหมายเช่นเดียวกัน และได้แจ้งว่า วันนี้ทางญาติได้เตรียมทนายความ ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากสภาทนายความ เพื่อขอเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการจังหวัดกันทรลักษ์ ฟ้องแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหายจากจำเลยทั้ง 4 คน เป็นเงินกว่า 4 ล้านบาท โดยต้องรอให้ศาลจังหวัดกันทรลักษ์สั่งให้เป็นโจทก์ร่วมได้ จึงจะได้ยื่นฟ้องจำเลย
โดยภายหลังศาลได้ทำการไต่สวน ได้มีเอกสารแถลงต่อสื่อมวลชน ระบุว่า ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ได้นัดพร้อมเพื่อนำคดีเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองสิทธิ์ สอบคำให้การจำเลยทั้ง 4 และตรวจพยานหลักฐาน โจทก์ จำเลย และผู้เสียหาย โดยทนายจำเลยได้แถลงต่อศาลว่า ประสงค์จะขอเวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานของจำเลย คือ อดีต ‘ผู้กองเหน่ง’ จะขอตรวจสอบเอกสารที่โจทก์จะอ้างส่งต่อศาลให้ครบถ้วนก่อน ซึ่งโจทก์มีพยานบุคคล พยานเอกสารจำนวนมาก ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดกลุ่มพยาน จึงขอเลื่อนคดีไปอีกสักระยะหนึ่งนัด ซึ่งศาลได้อนุญาต และให้นัดไต่สวนใหม่ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ เวลา 09.00 น. ตามที่คู่ความมีวันว่างตรงกัน
อย่างไรก็ตาม การนัดหมายของศาลจังหวัดกันทรลักษ์ในวันนี้ ศาลได้นัดจำเลยทั้งหมดในคดี รวมทั้งญาติผู้เสียหายมาร่วมรับฟังเพื่อตรวจพยานหลักฐาน หลังจากนั้นศาลจังหวัดกันทรลักษ์จะได้มีคำสั่งเพื่อดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งจำเลยทั้ง 4 คน ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยได้นำพยานหลักฐานพร้อมได้เตรียมทีมทนายความมากกว่า 10 คน เพื่อสู้คดีในครั้งนี้
นายศักดา คล้ายร่วมไทร หัวหน้าอัยการจังหวัดกันทรลักษ์ เปิดเผยว่า ร.อ.ศุภชัย จำเลยที่ 1 ถูกแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาอื่น รวมทั้งสิ้น 11 ข้อหา โดยมีความมั่นใจในการทำคดีนี้ ถึงแม้จะไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นในขณะเกิดเหตุของผู้ต้องหาก็ตาม และเชื่อมั่นถึงกระบวนการยุติธรรมรวมทั้งพยานหลักฐานที่เป็นข้อมูลทางด้านเทคโนโลยี เชื่อมโยงกับตัวผู้ต้องหาเอง สามารถเอาผิดได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง