แจ้งจับพ่อค้าเบี้ยวค่ามะม่วงครึ่งล้าน 3 เดือนคดีไม่คืบ

 

               6 ก.พ. 61  ชาวสวนมะม่วง 18 ราย ร้องเรียนว่าถูก นายศราวุฒิ จินเต็ก อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 20/6 หมู่ 4 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พ่อค้ารับซื้อมะม่วงโกงค่า “มะม่วงนอกฤดู” จากชาวสวน มูลค่า 5 แสนบาท ไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2560 และแจ้งความไว้ที่ สภ.หนองวัวซอ ตั้งแต่ 22 ธันวาคม 2560 จนถึงขณะนี้ คดีไม่มีความคืบหน้า ทุกคนต่างได้รับความเดือดร้อน ไม่มีเงินไปใช้หนี้ ธ.ก.ส. กลุ่มปลูกมะม่วง และร้านค้า

               นายศุภชัย ทองชุมพู เล่าว่า ทำสวนมะม่วงน้ำดอกไม้นอกฤดูและรวมผลผลิตขายมาหลายสิบปีไม่เคยมีปัญหา จนเดือนพฤษภาคม 2560 นายศราวุฒิที่อ้างว่าเป็นพ่อค้ารับซื้อผลไม้จากปทุมธานีมาติดต่อซื้อมะม่วงเพื่อจะนำไปขายและส่งมาเลเซีย ก็ไม่มีปัญหา จนมาเดือนพฤศจิกายน 2560 ได้ติดต่อซื้อขายกันอีก ตนจึงชวนชาวสวนมะม่วงในหมู่บ้านรวม 17 คน นำมะม่วงมารวมขายให้นายศราวุฒิที่บ้านของตน เป็นมะม่วงน้ำดอกไม้นอกฤดูเบอร์ 4 และสีทอง เกรดส่งออก กก.ละ 100 บาท เกรดรวม กก.ละ 45 บาท แรกๆ จ่ายเป็นเงินสด ต่อมาเป็นเงินโอนหลังรับผลไม้ไป 1 วัน

               “โดยนายศราวุฒิขับรถกระบะมารับซื้อมะม่วงถึงบ้าน และจอดนอนที่หน้าบ้าน เพื่อรอรับและขึ้นมะม่วงจากชาวสวน จึงมีโอกาสพูดคุยกันจนเชื่อใจ และยังบอกว่าสนิทกับตำรวจ จึงจะค้าขายผลไม้ได้สะดวก จนมารับมะม่วงอีก 6 เที่ยวสุดท้าย เที่ยวแรกจ่ายมาครึ่งเดียว ที่เหลือบอกจะโอนเข้าบัญชี ก็ไม่โอน จากนั้นอีก 5 เที่ยวก็ไม่ได้จ่ายเงิน ติดต่อไปก็บ่ายเบี่ยงว่ามีปัญหามะม่วงน้อย มะม่วงอ่อน รวมค่ามะม่วง 14 ตัน ค่าตะกร้าพลาสติก ค่าเช่าตะกร้า เสียหายรวม 500,907 บาท จึงตัดสินใจไปแจ้งความที่ สภ.หนองวัวซอ”

               นายศุภชัย เล่าต่อว่า ไปแจ้งความครั้งแรกวันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2560 กับ ร.ต.อ.ชวนสันติ จันทคัต รอง สว.สอบสวน สภ.หนองวัวซอ แต่บอกว่ามีงานด่วนให้มาวันใหม่ ตนไปแจ้งครั้งที่ 2 วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2560 ตำรวจยังนัดให้มาวันอื่น ต่อมาจึงมาไปร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมอุดรธานี ทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานกับตำรวจ และบอกให้พวกเราไปพบร้อยเวรคนเดิม และวันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2560 พวกเราทั้ง 17 คน ไปโรงพักแจ้งความลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน พร้อมกับต่อโทรศัพท์คุยกับนายศราวุฒิที่สัญญาว่าจะเอาเงินมาใช้หนี้วันที่ 16 มกราคม 2561 จนถึงวันนัดก็ไม่มา แถมปิดโทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ ร้อยเวรก็สอบปากคำไว้แค่ 2 คน สอบถามว่าออกหมายเรียกไป 2 ครั้ง แต่ยังไม่ออกหมายจับ

               นางระเบียบ วงค์อนุ อายุ 47 ปี ชาวสวนที่ถูกโกง เล่าว่า ปลูกมะม่วงขายและรับซื้อมะม่วงจากชาวสวนขายส่งเวียดนาม ปีไหนโชคดีก็จะได้เงินแสน ปีไหนโชคร้ายแบบปีนี้ นอกจากจะประสบปัญหาศัตรูพืช ได้นำมะม่วงนอกฤดูในสวนและรับซื้อจากชาวสวนมาขายให้นายศราวุฒิ รวมราคา 130,000 บาท คงจะไม่มีเงินใช้หนี้ ธ.ก.ส. และใช้หนี้กลุ่มได้หมด โดยเฉพาะหนี้กลุ่มค่า “ถุงห่อ” จะต้องจ่าย 15 มกราคม 2561 ต้องไปยืมเงินญาติมาจ่ายก่อน เพราะจะถูกปรับ และเดือนเมษายนนี้ ก็จะต้องจ่ายค่าปุ๋ยอีก

               เช่นเดียวกับ นางกรรณิกา แสนรัก อายุ 43 ปี ชาวบ้านที่ถูกโกงอีกคน เล่าว่า ปลูกมะม่วง 30 ไร่ โดยมีปีนี้จะได้มะม่วงนอกฤดู 2 ตัน ได้ราคา กก.ละ 45 บาท ซึ่งถือเป็นรายได้หลักของมะม่วง ชุดแรกได้น้ำหนัก 1 ตันเศษ ก็ถูกโกงไปแล้ว 50,000 บาท ซึ่งปกติจะเอาส่วนนี้ไปใช้หนี้ก่อน ก็ยังค้างทั้ง ธ.ก.ส. ค้างทั้งกลุ่มอยู่ ทำให้มะม่วงที่เหลือต้องลุ้นให้ขายได้ทั้งหมด

               ต่อมา นายวิมล สุรเสน นายอำเภอหนองวัวซอ ที่เดินทางมาประชุมกลุ่มมะม่วงกุดหมากไฟ ทราบเรื่องจึงเดินทางมารับทราบข้อเท็จจริงด้วย โดยระบุว่า ไม่เคยได้รับรายงาน หรือร้องเรียนเรื่องนี้มาก่อน รู้จากนักข่าวที่โทรศัพท์ไปสัมภาษณ์ หลังจากรับทราบปัญหาตลอดจนสอบถาม ข้อสงสัยจากปากชาวสวนที่เดือดร้อน ได้โทรศัพท์สอบถามคดีจากร้อยเวร สภ.หนองวัวซอ ก่อนรับปากชาวสวน จะติดตามเร่งรัดคดีนี้ด้วยตนเอง หากมีปัญหาเข้าพบนายอำเภอได้ทันที

               นายอำเภอหนองวัวซอ กล่าวอีกว่า พนักงานสอบสวนชี้แจงมาว่า นายศราวุฒิรับปากกับตำรวจจะนำเงินมาชดใช้วันที่ 16 กุมภาพันธ์ นี้ ระหว่างนี้พนักงานสอบสวนจะเชิญชาวสวนที่เสียหายไปให้ปากคำเพิ่มเติมเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมเสนอออกหมายจับ หากไม่เดินทางมาชดใช้เงินตามนัด จะออกหมายจับนำตัวมาดำเนินคดีทันที พร้อมรับปากจะนำกรณีนี้ไปตรวจสอบ หาวิธีการที่รัดกุมในการซื้อขายผลผลิต ไม่ให้มีช่องว่างจนถูกโกงอีก