ข่าว

คืนเงินเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ !!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตร.-ผู้แทนธนาคารร่วมกันคืนเงินให้ผู้เสียหาย 16 รายที่ตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ด้าน ‘บิ๊กโจ๊ก’ ลั่นเดินหน้ากวาดล้างให้สิ้นซาก เผยบางกลุ่มหนีซุกต่างประเทศแล้ว

 

           เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2561 พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิ์รัตน์ รองผกก.สปพ. นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการกองคดี 1 เป็นผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) พร้อมด้วย ผู้แทนธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ผู้แทนธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้แทนธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และผู้แทนธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ร่วมกันคืนเงินจากการถูกหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ (Call Center) คืนเงินให้กับผู้เสียหายจำนวน 16 ราย รวมเป็นเงินจำนวน 3,291,887 บาท

           พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตำรวจยังคงเดินหน้าติดตามกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติอย่างต่อเนื่อง โดยประสานงานกับ ปปง.ในการตรวจสอบเส้นทางการเงินเพื่ออายัดเงินคืนผู้เสียหาย รวมถึงประสาน กสทช.เพื่อบล็อกหมายเลขโทรศัพท์ที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้โทรหลอกลวงเหยื่อ จากการสืบสวนสอบสวนพบว่ามีกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 7-8 กลุ่ม ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุม บางส่วนก็หนีไปต่างประเทศ ทำให้จำนวนคนร้ายลดน้อยลง สถิติการจับกุมก็ลงตามไปด้วย ขณะนี้เหลืออยู่ประมาณ 2-3 กลุ่มเท่านั้นที่ต้องทำการสืบสวนจับกุม ซึ่งขณะนี้ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา ประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศเดียวและประเทศแรกที่สามารถอายัดและคืนเงินให้กับผู้เสียหายได้จำนวนมาก

 

คืนเงินเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ !!

 

           “ส่วนกรณีที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ช่องทางนำเงินไปลงทุนโดยโอนเข้าระบบสกุลเงินดิจิทัล หรือบิทคอยน์ นั้น ตำรวจได้เสนอไปยังรัฐบาลให้พิจารณาเพิ่มกฎหมายในการควบคุมสกุลเงินดิจิทัลแล้ว อีกทั้งยังประสานกับบริษัทตัวกลางบิทคอยน์ในประเทศไทย เพื่อช่วยตรวจสอบและอายัดก่อนที่เงินจะถูกโอนไปยังต่างประเทศ เพราะหากเงินถูกโอนเข้าสู่ระบบกลางในต่างประเทศ จะไม่สามารถอายัดได้ ฉะนั้นเหยื่อที่รู้ตัวว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง ให้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ ที่สายด่วน 1155 และ 1710 โดยเร็ว เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เร่งดำเนินการอายัดเงินได้ทัน ยิ่งแจ้งเร็วเท่าไหร่ก็จะทำให้ผู้เสียหายได้เงินคืนเต็มจำนวนเร็วเท่านั้น ฝากถึงประชาชนทั่วประเทศ ไม่ต้องกังวลการทำธุรกรรมทางการเงิน สามารถทำธุรกรรมได้ตามปกติ” รอง ผบช.ทท. กล่าว

           สำหรับสถิติการเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตั้งแต่การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงาน ปปง. มีผู้แจ้งผ่านสายด่วน ปปง. 1710 ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. 2560 จนถึงปัจจุบัน (1 ก.พ.61) มีผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงิน จำนวน 210 ราย เหตุเกิดแล้วรีบแจ้ง 88 ราย เหตุเกิดแล้วแจ้งภายหลัง 122 ราย รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 81,517,259.53 บาท สามารถยับยั้งและช่วยเหลือได้จำนวน 33 ราย มูลค่ารวม 15,189,532.08 บาท

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ