3 ชม.คุมเพลิงไหม้โกดังของเล่นได้แล้ว

 

               29 ม.ค. 61  เมื่อเวลา 14.30 น.  ร.ต.อ.วิวัตน์ชัย เกษีสังข์  รอง สว.(สอบสวน) สน.จักรวรรดิ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ภายในซอยวาณิช 1 (ตลาดสำเพ็ง) ถนนเยาวราช แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ จึงรายงานให้ พล.ต.ต.ดุสิต สมศักดิ์ ผบก.น.6 ทราบ ประสานกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร้องขอรถดับเพลิงกว่า 10 คัน ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.โชคชัย คณะเจริญ ผกก.สน.จักรวรรดิ พ.ต.ท.พงศ์ดนัย วิมุกติบุตร รอง ผกก.ป.สน.จักรวรรดิ กำลังตำรวจป้องกันและปราบปราม สน.จักรวรรดิ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูและมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

 

 

 

 

               ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์มีความสูง 5 ชั้น ลักษณะปลูกติดกันกว่า 10 คูหา เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบอาคารพาณิชย์ต้นเพลิง เลขที่ 88 ประกอบกิจการเป็นโกดังเก็บวัสดุของเล่นเด็ก พบมีแสงเพลิงและกลุ่มควันสีดำจำนวนมากเกิดบริเวณชั้นที่ 1 และลุกลามขึ้นสู่ด้านบนทั้งตัวอาคาร เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต่างพากันลากหัวฉีดน้ำเข้าไปประมาณ 3 - 4 เมตร ภายในซอยกันอย่างทุลักทุเลเนื่องจากเป็นตอกซอยแคบและร้องขอเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการตัวอาคารเข้าควบคุมสกัดเพลิงที่กำลังโหมไหม้อยู่ ขณะเดียวกันประชาชนที่อยู่ในละแวกดังกล่าวมายืนมุงดูเหตุการณ์จับกลุ่มพูดคุยเนืองแน่น

 

 

 

               ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รหัส ใต้ 11-11 ซึ่งเป็นชุดปฏิบัติการภายในตัวอาคาร ได้ขาดการติดต่อไป เจ้าหน้าที่ได้จัดชุดค้นหาเข้าตรวจสอบในอาคารพาณิชย์ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ก่อนที่จะสามารถนำตัวออกมาจากจุดเกิดเหตุได้ จากการสอบถามเบื้องต้นน่าจะเกิดการน็อกอากาศ ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว

 

 

 

 

               ขณะเดียวกันทาง นายวสันต์ บุญหมื่นไวย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว ซึ่งเพลิงกำลังไหม้บริเวณชั้น 4 - 5 โดยพยายามไม่ให้ลุกลามไปยังอาคารข้างเคียง ซึ่งการทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเป็นซอยแคบเข้าไปประมาณ 3 - 4 เมตร ด้านหน้าเป็นอาคารพาณิชย์ เลขที่ 86 แต่จุดที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ เลขที่ 88 ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ด้านหลัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดเส้นทางการจราจรบริเวณแยกราชวงศ์ไปจนถึงท่าน้ำชั่วคราว โดยจะเปิดให้เข้าเฉพาะรถของเจ้าหน้าที่และรถดับเพลิงเท่านั้น ขณะเดียวกันได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวแล้ว

 

 

 

               พล.ต.ต.ดุสิต เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งเหตุรีบเดินทางเข้ามาควบคุมและสั่งการด้วยตนเอง ขณะนี้ทราบชื่อเจ้าของอาคารพาณิชย์ที่เกิดเหตุแล้วคือ นางณปภัช จุฬาเลิศมณี อายุ 43 ปี โดยเปิดเป็นโกดังเก็บของเล่นเด็กทั้งตัวอาคาร ซึ่งขณะเกิดเหตุนั้นไม่มีใครอยู่ภายในตัวอาคารดังกล่าว ขณะนี้ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน สน.จักรวรรดิ ติดต่อเพื่อเชิญมาสอบปากคำแล้ว

 

 

 

               ร.ต.อ.วิวัฒน์ เปิดเผยว่า รายงานในเบื้องต้นนั้นได้พบเพียงผู้บาดเจ็บ 1 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่ปฏิบัติหน้าที่ภายในตัวอาคารมีอาการสำลักควันไฟ ซึ่งล่าสุดปลอดภัยแล้ว ไม่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้สันนิษฐานเบื้องต้นน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากตัวอาคารนั้นสร้างมาเป็นระยะเวลานานประกอบกับมีวัสดุซึ่งทำจากพลาสติกและกระดาษจำนวนมาก จึงทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม อยู่ระหว่างการเชิญเจ้าของอาคารพาณิชย์เกิดเหตุให้ปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียด ส่วนการหาสาเหตุที่แท้จริงนั้นจะประสานไปยังเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเพื่อเข้าตรวจสอบในวันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.) เพื่อสรุปสาเหตุและประเมินความเสียหายครั้งนี้ต่อไป

 

 

 

               ต่อมาเวลา 16.40 น. ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้เนื่องจากว่าภายอาคารมีการเก็บสินค้าจำพวกกิ๊ฟช้อปของเล่นเด็กเป็นจำนวนมากซึ่งทำจากพลาสติกและกระดาษทำให้การควบคุมเพลิงเป็นไปได้ยากลำบาก

 

 

 

               ล่าสุด เมื่อเวลา 17.45 น. พ.ต.ท.สมเกียรติ นนทแก้ว รองผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ 5 ชั้น ซึ่งเป็นโกดังเก็บของเล่น ตรอกสิบเบี้ย ถนนราชวงศ์ เขตสัมพันวงศ์ กรุงเทพฯ ว่า ขณะนี้ควบคุมเพลิงได้แล้ว โดยได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่นักผจญเพลิงจาก 5 สถานีดับเพลิง กว่า 100 นาย และรถดับเพลิงกว่า 20 คัน มาช่วยในการควบคุมเพลิงครั้งนี้ ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงกว่าจะควบคุมเพลิงไว้ได้

 

 

 

               พ.ต.ท.สมเกียรติ เปิดเผยต่อว่า อุปสรรคในการควบคุมเพลิงครั้งนี้ มาจากสารพิษจากต้นเพลิงซึ่งเป็น พลาสติก ยาง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความยากลำบาก ประกอบกับจุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่แคบ ทำให้เข้าไปถึงต้นเพลิงได้ยาก อีกทั้งเพลิงได้มีการปะทุขึ้นมาเป็นระยะ อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายของวันที่ 30 มกราคม นี้ จะส่งเจ้าหน้าที่เขตสัมพันธ์วงศ์ วิศวกร และเจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงมาตรวจสอบสถานที่ถึงความปลอดภัยของอาคาร ก่อนจะส่งมอบให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบถึงสาเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้

 

 

 

               นายสมบัติ กนกทิพย์วรรณ ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้สั่งปิดอาคารพาณิชย์ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เป็นเวลา 30 วัน โดยหลังจากควบคุมเพลิงได้แล้วจะให้เจ้าหน้าที่ประเมินสภาพอาคารเบื้องต้น รวมถึงอาคารข้างเคียงว่าได้รับผลกระทบจากเพลิงไหม้มากน้อยเพียงใด เนื่องจากใช้เวลาในการควบคุมเพลิงนานกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งสภาพอาคารเป็นอาคารคอนกรีตยังถือว่าสามารถรองรับน้ำหนักจากเหตุเพลิงไหม้และน้ำที่ใช้ในการดับไฟได้อยู่ ทั้งนี้ หลังจากควบคุมเพลิงได้เรียบร้อยแล้ว จะให้วิศวกรเข้าประเมินโครงสร้างของอาคารอย่างละเอียดอีกครั้ง หากพบว่าโครงสร้างส่วนใหญ่เสียหายก็จะให้ทำการรื้อถอนทันที ส่วนมูลค่าความเสียหายขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้