
"พ่อแอร์สาวสายการบินดัง" เตรียมร้อง!! กรมการกงสุล ช่วยตามคดี
พ่อช็อค!! คุยไลน์แค่วันเดียวลูกจากไป ผลชันสูตรขาดอากาศหายใจ-ลำคอเขียวช้ำคล้ายเชือกรัด เชื่อฆาตกรรม ขอกงสุล จี้ การต้า เร่งจับคนผิด หลังเสียชีวิตบ้านพักคริสต์มาส
14 ม.ค.61 - ได้เกิดเหตุการณ์ช็อคสะเทือนใจของผู้เป็นพ่อ เมื่อได้รับรู้ข่าวการเสียชีวิตของ "ลูกสาว" หัวแก้วหัวแหวนแบบกระทันหัน ที่ทำงานเป็นแอร์โฮสเตสสายการบินชื่อดังอยู่แถบตะวันออกกลาง ทั้งที่เพิ่งแชทไลน์ ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบผ่านไปแค่วันเดียว ก่อนที่จะได้รับร่างไร้วิญญาณกลับมาบำเพ็ญกุศลที่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 2 ม.ค.61 ที่ผ่านมา
โดยเรื่องราวสะเทือนใจครั้งนี้ "นายเฮียบบู๊ แซ่โค้ว" อายุ 74 ปี เปิดเผยว่า เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต ที่บุตรสาว คือ "น.ส.เปรมฤทัย จุเส้ง" หรือ ไอซ์ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นแอร์โฮสเตสสายการบินชื่อดัง ทำงานและอาศัยอยู่ที่ประเทศการ์ต้า เป็นเวลา 3 ปี ต้องมาเสียชีวิตอย่างกระทันหันภายในบ้านพักพนักงาน ซึ่งในใบมรณะบัตรระบุว่าเสียชีวิตจากการการขาดอากาศหายใจ โดยที่บริเวณลำคอมีรอยเขียวช้ำเป็นเส้นคล้ายถูกเชือกรัด เชื่อว่าเป็นการฆาตกร
"ลูกสาวเป็นคนร่าเริงแจ่มใจ ไม่มีเรื่องเครียด และเป็นคนที่รักพ่อมาก ไม่ใช่การฆ่าตัวตายอย่างแน่นอน เพราะยังทักทายสนทนาถามไถ่และบอกรักกันทางไลน์ทุกวัน ซึ่งก่อนวันเสียชีวิตแค่ 1 วัน ก็ยังคุยกันปกติ" ผู้เป็นพ่อ ระบุ
นายเฮียบบู๊ ยังกล่าวอีกว่า ตนได้รับข่าวการเสียชีวิตของบุตรสว เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 26 ธ.ค.60 ซึ่ง ญาติที่อยู่ประเทศเยอรมัน วิดีโอคอล มาบอก โดยสถานทูตไทยประจำประเทศการ์ต้าได้แจ้งแม่ของน้องไอซ์ และญาติที่เป็นลูกพี่ลูกน้องซึ่งอยู่ที่นั่น ก็รีบบินไปที่ประเทศการ์ต้าทันที ส่วนตนอยู่ที่ประเทศไทยรู้สึกช็อคเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าลูกสาวอันเป็นที่รักต้องมาด่วนจากไปจากฝีมือคนโหดเหี้ยมในต่างแดนแบบนี้ เมื่อญาติที่ไปดูศพก็บอกว่าที่คอมีรอยรัดเป็นเส้นรอบคอ จึงแจ้งกับทางสถานทูตช่วยติดตามคดีให้ทางการของประเทศการ์ต้าช่วยสืบสวนจับกุมตัวคนร้ายมาลงโทษ ก่อนจะดำเนินการทำเรื่องรับศพกลับมาทำพิธีบำเพ็ญกุศลที่ประเทศไทย
“ปกติแล้วผมกับลูกสาวจะคุยกันเป็นประจำผ่านทางไลน์ เพราะผมอยู่เมืองไทย ส่วนลูกสาวทำงานอยู่ที่การ์ต้า ว่างก็จะกลับมาหาพ่อที่เมืองไทย ลูกสาวผมไปทำงานที่นั่นได้ประมาณ 3 ปี ตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรี จาก ม.กรุงเทพ ใหม่ๆ ซึ่งภาษาอังกฤษน้องไอซ์เก่งมากๆ ลูกสาวผมใฝ่ฝันอยากจะเป็นแอร์โฮสเตสตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก และเมื่อโตขึ้น เรียนจบ เขาก็ได้เป็นแอร์โฮสเตส อย่างที่ใฝ่ฝันไว้ ได้ทำงานที่รักและมีความสุข ผมเพิ่งสนทนากับลูกสาวเมื่อวันที่ 23 และ 24 ธ.ค. ที่ผ่านมา และทุกครั้งก็จะถามเรื่องสุขภาพ บอกรักและคิดถึง เป็นห่วง โดยเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ลูกสาวผมได้ส่งเพียงสติ๊กเกอร์รูปหัวใจมา จากนั้นวันที่ 25 ธ.ค. ผมก็อวยพรลูกสาวในวันคริสต์มาสพร้อมกับส่งเพลง แต่ไม่มีการตอบรับใดๆกลับมา กระทั่งกลางดึกวันที่ 26 ธ.ค. ญาติก็แจ้งข่าวร้ายให้ทราบ ทุกวันนี้ยังทำใจไม่ค่อยได้ ผมรักลูกสาวคนนี้มาก” นายเฮียบบู๊ กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ
"นายเฮียบบู๊" กล่าวอีกว่า ศพของบุตรสาวมาถึงประเทศไทยในวันที่ 2 ม.ค.จากนั้นก็ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ก่อนจะทำพิธีฌาปนกิจไปเมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา และถึงแม้ตอนนี้จะเหลือแต่ความทรงจำดีๆ และภาพถ่ายของบุตรสาวไว้ให้ดูต่างหน้า จะทำอย่างไรเขาก็ไม่ฟื้นคืนชีพกลับมา แต่การทวงความเป็นธรรมนำคนร้ายมาชดใช้ความผิดที่ก่อยังต้องเดินหน้าต่อ เพราะนับตั้งแต่การเสียชีวิตของบุตรสาวก็จะติดต่อกับทางสถานทูตไทยประจำประเทศการ์ต้าตลอด แต่ความคืบหน้าของคดีไม่มีและได้รับการชี้แจงจากเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยว่า ทางการของการ์ต้าไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร จึงกังวลใจว่าการตายของบุตรสาวครั้งนี้จะเป็นการตายฟรีและตายตาไม่หลับ เพราะหลังการเสียชีวิตบุตรสาวมาเข้าฝันทุกคืน คืนละช่วงสั้นๆ เหมือนพยายามจะบอกเบาะแสบางอย่าง
เพื่อไม่ให้ทางการการ์ต้าถ่วงเวลา ปล่อยให้คดีล่าช้าและเงียบไป จึงจะเข้าร้องกับกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ที่ตั้งอยู่แจ้งวัฒนะ ให้ดำเนินการช่วยเหลือ และกดดันประเทศการ์ต้าให้เร่งรัดสืบสวนจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ขณะเดียวกันรู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการปิดข่าว คนไทยที่ทำงานอยู่ที่ประเทศการ์ต้ามีเป็นพันคน โดยบุตรสาวตนทำงานเป็นแอร์โฮสเตสของสายการบินดังที่นั่น แถมยังถูกฆ่าตายภายในบ้านพักพนักงาน แต่เรื่องเงียบตั้งแต่สายการบินไปยันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการทำคดีของการ์ต้า และที่กรมการกงสุลไทยที่ตนติดต่อไปสอบถามครั้งแรกก็ยังบอกว่าไม่มีแจ้งว่ามีคนไทยตายที่การ์ต้า แต่พอติดต่อไปอีกทีก็บอกว่ามีแล้วชื่อ น.ส.เปรมฤทัย จุเส้ง ซึ่งก็คือบุตรสาวของตน พร้อมให้ประสานงานกับสถานทูตไทยประจำการ์ต้าก่อน ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าภายในสัปดาห์นี้จึงจะไปร้องกรมการกรมสุลด้วยตัวเอง เพื่อให้ช่วยเหลือตามคดี ทวงความเป็นธรรมให้บุตรสาว
อย่างไรก็ตาม ต่อมา พี่สาวของน.ส.เปรมฤทัย ยืนยันว่า น้องไม่ได้ถูกฆ่าตามที่พ่อให้ข่าว แต่ฆ่าตัวตาย เพราะโรคซึมเศร้า (อ่านต่อ...แอร์สาวฆ่าตัวตาย ไม่ได้ถูกฆ่า : พี่สาว ยืนยัน)



