‘เสก โลโซ’ ย้ำฉี่ม่วงกินยานอนหลับ-ไบโพล่าร์

               7 ม.ค. 61  เมื่อเวลา 14.30 น. บ้านเลขที่ 9/27 หมู่บ้านนันทวัน-วัชรพล ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ  นายเสกสรร ศุขภิมาย หรือ เสก โลโซ แถลงข่าวครั้งแรกเกี่ยวกับเรื่องยิงปืนขึ้นฟ้า ยาเสพติด และความสัมพันธ์กับตำรวจ ใช้เวลาในการเปิดใจเล่าเหตุการณ์อย่างละเอียดกว่า 1 ชั่วโมง

 

 

               นายเสกสรร กล่าวว่า ตนจะเล่าเหตุการณ์ด้วยความเป็นจริง เวลาเขียนข่าวจะได้ไม่บิดพลิ้ว ตนได้ไปที่วัดเขาขุนพนม จ.นครศรีธรรมราช มาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากเคารพในพระเจ้าตากสิน โดยในวันที่ 28 ธ.ค. 60 เป็นวันครบรอบปราบดาภิเษกสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทางเจ้าอาวาสได้ขอให้ผมไปช่วยเล่นคอนเสิร์ตให้ ปกติเวลาที่ตนเดินทางไปต่างจังหวัด หากไม่ได้ขึ้นเครื่องบิน ตนจะพกปืนติดไว้ในรถตลอดเวลาอยู่แล้ว ก่อนนี้เคยมีใบพกพาอาวุธ แต่ปัจจุบันไม่มีใบพกพาแล้ว ซึ่งตนได้พกไว้เพื่อป้องกันตัว ที่ยิงปืนขึ้นฟ้า เพื่อแก้บน ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เพราะยิงตอนตีสอง ซึ่งวัดตั้งอยู่บนภูเขา ตนจึงมั่นใจว่าจะไม่โดนใคร โดยไม่ได้บอกเจ้าอาวาสก่อนว่าจะยิงปืนขึ้นฟ้า หลังจากยิงเสร็จแล้วเช้าวันต่อมาจึงได้ไปกราบเรียนเจ้าอาวาส ซึ่งเจ้าอาวาสก็เข้าใจ ไม่แปลกใจ แต่บังเอิญเป็นการถ่ายทอดสด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ก็ยอมรับ และต้องขอโทษด้วย

 

 

 

 

               นายเสกสรร กล่าวต่อว่า จากนั้นได้เดินทางมาพักที่โรงแรมในตัวเมือง จ.นครศรีธรรมราช ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ จึงทราบว่าถูกออกหมายจับ พี่ไข่ซึ่งสนิทกับตำรวจบอกผมว่า จะมีตำรวจไปจับผมที่สนามบิน ผมจึงไม่เดินทางกลับด้วยเครื่องบิน ทั้งที่ตนตั้งใจจะกลับเครื่องบิน เนื่องด้วยวันที่ 30 ธ.ค. 60 ต้องไปเล่นคอนเสิร์ตที่ จ.หนองคาย ทำให้ต้องเดินทางกลับด้วยรถแทน ระหว่างนั้นก็เห็นข่าวในโซเชียลว่าจะมีตำรวจไปดักจับที่ จ.หนองคาย จึงทำให้ตนตัดสินใจไม่ไปเล่นคอนเสิร์ต รอให้ตำรวจมาจับที่บ้าน จากนั้นได้ให้ทนายประสานไปที่ พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เพื่อเคลียร์ให้เรียบร้อยว่าตนจะขอไปเล่นคอนเสิร์ตที่พัทยาให้เรียบร้อยและจัดการธุระให้เสร็จสิ้น จึงจะเข้ามอบตัว แต่ตำรวจไม่ยอม อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าสาเหตุที่ไม่ไปเล่นคอนเสิร์ตที่ จ.หนองคาย และที่พัทยานั้น เพราะหากตนไปเล่นก็ต้องโดนตำรวจจับ

 

 

 

 

               นายเสกสรร กล่าวต่อว่า จากนั้นวันที่ 31 ธ.ค. 60 เวลาประมาณ 10.00 น. ก็มีตำรวจชุดสืบสวน สน.คันนายาว มาที่บ้านพัก ประสานให้เข้ามอบตัว จากนั้น พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว ก็มาที่บ้านพัก ตนให้ลูกน้องคุย ขอดูหมายจับ หมายค้น ซึ่งครั้งแรกมาหมายจับ แต่ยังไม่มีหมายค้น ตนจึงให้ไปเอาหมายค้นมา ในเวลา 1 ชั่วโมง ก็ได้หมายค้น ทั้งๆ ที่เป็นวันอาทิตย์ ตนก็สงสัยว่าได้มาอย่างไร ต้องให้ความเป็นธรรมกับตนด้วย ตนจึงขอดูหมายค้น แต่ตำรวจก็ไม่ให้ดู หากให้ผมดูหมายค้น ผมก็ลงมา แต่กลับไม่ให้ดู ตนจึงไม่ยอมให้เข้ามาภายในบ้าน

               จนกระทั่งเวลา 16.30 น. พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. ได้เข้ามา ผมต่อรองกับ พล.ต.ต.สมพงษ์ ให้รอทนายก่อน โดยยังไม่ให้ตำรวจเข้ามา จนทาง พล.ต.ต.สมพงศ์ บอกว่า หมายค้นอยู่กับพี่ แต่ตนก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ถ่ายภาพส่งมาให้ดู ไม่ใช่ว่าตนจะขัดขืน แต่ผมบอกให้รอทนายมาก่อน นอกจากนี้มารู้ภายหลังถึงสาเหตุที่ตำรวจพังประตูเข้ามา เพราะหมายค้นได้ถึงเวลา 18.00 น. ส่วนในคลิปที่ตนพูดไปนั้น (ใครเข้ามากูจะยิง) ผมพูดไปด้วยอารมณ์ และตนได้เห็นหมายค้นจากภาพในโทรศัพท์ที่ตำรวจส่งมาให้ ก่อนที่จะพังประตูเข้ามา ซึ่งในตอนนั้นตนก็ไม่รู้ว่าเป็นหมายค้นจริงหรือไม่

 

 

 

 

 

               นายเสกสรร กล่าวต่อไปว่า การที่ตำรวจจะเข้ามาค้นบ้านประชาชน ตำรวจต้องโชว์หมายค้นก่อน และตำรวจจะต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจ ผมไม่ได้หนีไปไหน ถ้าหนีไปไหนจะมานอนที่บ้านได้อย่างไร หลังจากนี้ได้พูดคุยกับทนายความแล้ว อยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ถ้าหากตำรวจเป็นฝ่ายผิดก็จะฟ้องแน่นอน เพราะกระทำเกินกว่าเหตุ ทั้งการเอาตั้มซึ่งไม่ได้กระทำผิดไปนั่งคู่กับผมแล้วถ่ายภาพ ทั้งที่ขณะนั้นอีฟก็อยู่ในห้องกับผมสองคน หลังจากจับตนแล้วก็พาตนไปที่ บช.น. เพื่อตรวจปัสสาวะ ผมบริสุทธิ์ใจก็ให้ตรวจตามปกติ ส่วนที่ฉี่เป็นสีม่วงเพราะผมกินยานอนหลับและยาไบโพล่าร์ ทั้งนี้ เขาก็ตรวจอีฟด้วย ก็ไม่เจอยาเสพติด ตรวจค้นในห้องพักก็ไม่มีอุปกรณ์การเสพยาเสพติด ไม่พบยาเสพติดแต่อย่างใด จากนั้นผมก็ไปให้การที่ สน.คันนายาว จนถึงเวลา 02.00 น. ตำรวจได้ดำเนินการตามขั้นตอน ไม่มีอภิสิทธิ์แต่อย่างใด ส่วนภาพที่ปรากฏที่ สน.คันนายาว นั้น ตนยืนยันว่าไม่มีการอบรมว่าจะไม่ทำอย่างนี้อีก เพราะผมเป็นผู้ใหญ่แล้ว

               นายเสกสรร กล่าวต่อไปอีกว่า เมื่อไปถึง จ.นครศรีธรรมราช แล้ว ก็ได้คุยกับ พล.ต.ต.วันไชย จากนั้นทาง พล.ต.ต.วันไชย ก็ได้ต่อสายให้คุยกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ซึ่งก็ได้พูดคุยกัน ผมก็บอกว่าผิดก็ว่าไปตามผิด ผมก็ขอโทษ พล.ต.ต.วันไชย ด้วย ส่วน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ก็ได้สอบถามว่าตนเป็นอย่างไร สั่งให้ดูแลเป็นอย่างดี เรื่องที่เกิดขึ้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ เป็นสุภาพบุรุษ หลังเกิดเรื่องได้พูดคุยกันเข้าใจดีแล้ว หลังสอบปากคำเสร็จก็ใส่กุญแจมือเหมือนคนปกติ ไม่ได้รับสิทธิพิเศษ ตนไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายหรือทำลายใครเลย

 

 

 

 

 

               นายเสกสรร ได้ชี้แจงถึงภาพถ่ายใน จ.นครศรีธรรมราช ว่า หลังจากเสร็จเรื่อง ได้ประกันตัวออกมาแล้ว ตนจึงขอเลี้ยงข้าวพี่ๆ ที่ช่วยดูแลตนเป็นอย่างดี โดยตนได้ชวน ‘พี่เปรม’ มารับประทานอาหารด้วยกัน แต่ทาง ‘พี่เปรม’ ติดธุระ จึงให้ พ.ต.อ.รังสรรค์ สุขเกื้อ ผกก.กก.สส.ภ.นครศรีธรรมราช และ พ.ต.ท.ธีรพล พุ่มพิชัย สวป.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มาเป็นตัวแทน นอกจากนี้ก็มีบุคคลในพื้นที่ที่สนิทมาร่วมกินข้าวกันด้วย วันนั้นปาร์ตี้กันต่อ ก็ถ่ายรูปเล่นกัน ถ่ายรูปเสร็จก็ขออนุญาตลงภาพ ผกก.บอกว่า ได้ๆ จากนั้นก็ขอให้ลบ ผมก็ลบให้ ทั้งนี้ ตนขอให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ พิจารณาสักครั้ง เพราะตำรวจไม่ได้ทำอะไรผิด หากผิดก็ผิดที่ตนที่ชวน อย่างไรก็ตาม อย่าเอาเรื่องการเมืองมาเกี่ยว เพราะผมไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายใดทุกคนคือพี่น้องกัน

               “ผมรู้สึกเสียใจที่ทำให้ตำรวจโดนย้าย ส่วนเรื่องยาเสพติดไปว่ากันชั้นศาล แต่ผลตรวจไม่ชอบมาพากล เพราะไม่เจอยาเสพติดและไม่เจออุปกรณ์ยาเสพติด ยืนยันเป็นยานอนหลับกับยาไบโพล่าร์ ตนยืนยันไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เอาหลักฐานมาสู้กัน ผมเชื่อในการตัดสินของศาลทุกอย่าง”

               นายเสกสรร กล่าวว่า ถ้าผมไม่ได้เสพแต่เป็นเพราะยาที่ผมกินอยู่ ก็ขอโทษผมมาแล้วกัน ผมจะไม่ฟ้องเรียกค่าเสียหายอะไร เพราะผมก็มีเงินอยู่แล้ว แต่ถ้าผลตรวจมาว่าเป็นยาเสพติดจริง ก็ไปต่อสู้ในชั้นศาล หากถามว่าตนน้อยใจไหม ตนน้อยใจอยู่แล้วที่ทำกับตนแบบนี้ ถ้าเป็นตาสีตาสาจะทำกับเขาอย่างไร ส่วนกรณีของกานต์ที่บอกว่าจะกลับมาอยู่บ้านนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะผมดูแลตัวเองได้ และเหตุผลที่ผมยังไม่มอบตัวเพราะสิ้นเดือนทุกเดือนผมต้องจ่ายค่าเลี้ยงดู เงินเดือนพนักงาน ผมอยากดำเนินการให้เรียบร้อยก่อนจะเข้ามอบตัว แต่ก็โดนจับเสียก่อน ทั้งนี้ ข่าวที่เกิดขึ้นลูกๆ ผมเข้าใจดี ทำให้เขาแข็งแรงขึ้น ส่วนวันที่ 12 ม.ค.นี้ ถ้าตนไม่ติดธุระอะไรก็จะเข้าพบตำรวจตามหมายเรียก ถ้าติดก็จะประสานเลื่อนต่อไป