“เมาไม่เป่า”ถูกแจ้ง3ข้อหารวด

             เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 28 ธันวาคม 2560 พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.ในฐานะโฆษก ตร. ได้ออกตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่บริเวณด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดขางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ และตรวจการอำนวยความสะดวกให้กับผู้เดินทางรถโดยสารสาธารณะ สถานีขนส่งหมอชิต  

             พล.ต.อ.วิระชัย เปิดเผยว่า วันนี้ได้ออกตรวจความพร้อมของด่านตรวจวัดแอลกอฮอลล์ ซึ่งปีที่ผ่านมา ช่วงเทศกาลปีใหม่ มีอุบัติเหตุบนท้องถนนมีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากเมาแล้วขับ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีมาตรการเข้มงวดกวดขันวินัยจราจร โดยเฉพาะเมาแล้วขับ ซึ่งในปีนี้มีการปรับเพิ่มบทลงโทษ ถ้าเมาแล้วขับมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีปรับไม่เกิน 20,000 บาท และเพิกถอนใบอนุญาต 6 เดือน ทั้งนี้ หากว่าเมาแล้วขับแล้วก่อให้เกิดอุบัติเหตุ มีโทษจำคุก 1-5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท และเพิกถอนในอนุญาต 1 ปี และสุดท้ายถ้าเมาแล้วขับและมีผู้เสียชีวิต มีโทษจำคุก 3-10 ปีปรับ 60,000-200,000 บาท และเพิกถอนใบอนุญาตตลอดชีวิต นอกจากนั้นยังมีมาตรการในการตรวจสอบประวัติ หากผู้ใดเคยมีประวัติการเมาแล้วขับจะถูกเพิ่มโทษ หรือผู้ใดที่ถูกรอลงอาญาในข้อหาเมาแล้วขับ โดยทางเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบประวัติภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อเพิ่มโทษหรือให้ศาลพิจารณาโทษทันทีโดยไม่ต้องรอลงอาญา

             ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตั้งด่านตรวจดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้คัดกรองผู้ที่มีแอลกอฮอลล์ มาทำการตรวจวัดปริมาณ พบนายเอ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี พักอาศัยอยู่ย่านตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ขับรถยนต์ยี่ห้อมิซูบิชิ รุ่นมิราจ สีเทา หมายเลขเลขทะเบียน 1 กฆ 5471  กทม.  มีลักษณะคล้ายคนเมา จึงได้ขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ แต่ปรากฏว่า นายเอ กลับใช้ปากอมไว้ไม่ยอมเป่า จากนั้นเจ้าหน้าได้อธิบายขั้นตอนการเป่าที่ถูกวิธี พร้อมทั้งอธิบายว่ามีกฎหมายใหม่ หากไม่ยอมเป่าทดสอบแอลกอฮอล์โทษเท่ากับเมาแล้วขับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามพูดคุยให้นายเอ ทำการเป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ประมาณ 30 นาทีแต่ไม่เป็นผล นอกจากนี้เมื่อทำการตรวจสอบภายในรถ ยังพบสุรายี่ห้อหนึ่งถูกดื่มไปแล้วครึ่งขวด เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน เมาแล้วขับ และไม่พกพาสำเนารถ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.วิภาวดี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป