ข่าว

"กิ๊กสาว"เจอ 3 ข้อหาร่วมฆ่า "หมอปอ" (ฉบับ นสพ.คมชัดลึก)

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"กิ๊กสาว"ปัด 3 ข้อหาร่วมฆ่า"หมอปอ" รับซื้อปืนให้"เก่ง" ฝ่ายชายขอไว้ป้องกันตัว ยันไม่ได้ร่วมวางแผนสังหาร แฟนหนุ่มให้ขับรถรับส่งอ้างไปเคลียร์ปัญหาว่าที่เจ้าสาว

     ความคืบหน้าคดีนายรณชัย หรือเก่ง ปานชาติ อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาหลังสวน ว่าที่เจ้าบ่าว บุกยิง น.ส.นนทิญา หรือ “หมอปอ” ครัวจตุรัส อายุ 25 ปี เจ้าพนักงานทันตสาธารณสุข ว่าที่เจ้าสาว เสียชีวิตคาบ้านพักภายในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.)สลุย หมู่ 5 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร โดยผู้ต้องหายอมรับสารภาพลงมือจริงเพราะจำนนต่อหลักฐาน สาเหตุเนื่องจากไม่อยากแต่งงานเพราะแอบมีกิ๊ก ขณะที่ตำรวจได้ส่งกำลังประกบติดกิ๊กสาว พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับอีกราย เนื่องจากเป็นคนขับรถยนต์ไปรับส่งนายเก่งในวันก่อเหตุและแนวทางสอบสวนยังพบว่าเป็นผู้จัดหาอาวุธปืนที่นายเก่งใช้ก่อเหตุด้วย

     ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 22 ธันวาคม ที่ห้องประชุม ภ.จว.ชุมพร พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.ชุมพร สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) ภ.จว.ชุมพร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สลุย ควบคุมตัว น.ส.นฤมล ช่วยสมบัติ อายุ 23 ปี พนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) สาขาหลังสวน ซึ่งเป็นกิ๊กสาวของนายเก่ง ไปสอบปากคำในคดีร่วมฆ่าหมอปอ โดยมีตำรวจหญิง 3 คนยืนประกบ น.ส.นฤมล ที่ใช้ฮู้ดเสื้อสีเทาคลุมศีรษะ สวมหน้ากากอนามัยและมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ พล.ต.ต.สนธิชัย ใช้เวลาสอบปากคำ น.ส.นฤมล ประมาณ 30 นาที จากนั้นจึงให้เจ้าหน้าที่นำตัวไปฝากขังที่ สภ.สลุย และในวันที่ 23 ธันวาคม จะนำตัวไปขอฝากขังต่อศาลจังหวัดชุมพรต่อไป

     พล.ต.ต.สนธิชัย เปิดเผยว่า การจับกุม น.ส.นฤมล เป็นไปตามหมายจับของศาลจังหวัดชุมพร ในข้อหา 1.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน 2.มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และ 3.พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำ น.ส.นฤมล ในฐานะพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เพื่อสรุปเรียบเรียงเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นแต่ยังไม่ได้กันไว้เป็นพยานตามที่สื่อบางสำนักเสนอข่าว หลังจากนั้นจึงแสวงหาหลักฐานอื่นๆ และใช้กระบวนการทางนิติวิทยศาสตร์เพิ่มเติม จนสามารถสรุปได้ว่าคนร้ายที่คลุมหมวกไหมพรมไอ้โม่งสวมถุงมือเข้าไปก่อเหตุงัดบ้านแล้วใช้อาวุธปืนยิง น.ส.นนทิญา หรือหมอปอ จนเสียชีวิต คือ นายรณชัย หรือเก่ง ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานก่อนขออนุมัติหมายจับ น.ส.นฤมล เมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 ธันวาคม ที่ผ่านมา เมื่อศาลเห็นชอบจึงเข้าจับกุมในวันนี้ตามพยานหลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมด

     “สำหรับแรงจูงใจในการก่อเหตุเบื้องต้นก็คือ นายรณชัยไม่ต้องการแต่งงานกับ น.ส.นนทิญา ส่วนจะมีเรื่องชิงทรัพย์หรือไม่ยังไม่มี เป็นเพียงการเจตนาฆ่าเท่านั้น ไม่มีเจตนาเพื่อชิงทรัพย์ สำหรับเรื่องอาวุธปืนทางนักประดาน้ำกำลังระดมค้นหาอยู่ โดยตั้งทีมงานเอาไว้แล้วคือชุดสืบสวนสอบสวนเพื่อหาพยานหลักฐาน แม้จะจับผู้ก่อเหตุและผู้ร่วมก่อเหตุได้แล้วแต่ตำรวจก็ยังไม่หยุดการทำงาน ยังคงแสวงหาพยานหลักฐานอื่นๆ เพื่อนำประกอบให้สำนวนรัดกุมและสมบูรณ์ที่สุด" พล.ต.ต.สนธิชัยกล่าว และว่า ในส่วนเรื่องเงิน 7 แสนบาทและทองคำหนัก 10 บาทที่เป็นสินสอดนั้น เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้สอบสวน เพราะต้องรอเอกสารหลักฐานจากทั้งญาติฝ่ายหญิงซึ่งก็บอกว่าเป็นของลูกสาว ส่วนญาติฝ่ายชายก็บอกว่าเป็นของลูกชายจึงจำเป็นต้องตรวจสอบต่อไปหากได้ข้อมูลจากทั้งสองฝ่าย

      ผบก.ภ.จว.ชุมพร กล่าวด้วยว่า เรื่องอาวุธปืนที่ยังหาไม่เจอ น.ส.นฤมลรับสารภาพว่าเป็นผู้จัดหาให้นายรณชัยในราคากระบอกละ 7,000 บาท ส่วนจะซื้อให้เพื่ออะไรยังไม่สามารถตอบได้ เพราะอยู่ระหว่างการสอบสวน ส่วนเรื่องทรัพย์สินของผู้ตายนั้นในวันเกิดเหตุทางพี่ชายของ น.ส.นนทิญา คือนายบำรุง ครัวจัตุรัส ได้มาร่วมตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ด้วย พบร่องรอยการรื้อค้นแต่ไม่พบทรัพย์สินใดๆ ส่วนกรณีที่นางสมศรี ครัวจัตุรัส มารดาของน.ส.นนทิญา บอกว่ามีสร้อยคอทองคำของบุตรสาวสูญหายไป ก็ต้องเชิญมารดาของหมอปอมาสอบปากคำและขอดูหลักฐานต่างๆ ประกอบด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องให้ความเป็นธรรมคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้เสียชีวิตและฝ่ายผู้ต้องหาที่รับสารภาพไปแล้ว

     รายงานจากชุดสืบสวนแจ้งว่า น.ส.นฤมล ให้การยอมรับว่า ก่อนหน้านี้นายเก่งมาบอกว่าอยากได้ปืนเพื่อไว้ป้องกันตัว จึงพานายเก่งไปซื้ออาวุธปืน โดยเป็นคนออกเงินให้ในราคากระบอกละ 7,000 บาท ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร กระทั่งในวันเกิดเหตุนายเก่งมาบอกว่าให้ช่วยขับรถไปส่งที่ห้องพักหมอปอเนื่องจากต้องการเคลียร์ปัญหารักสามเส้าและเรื่องวันแต่งงานที่ใกล้มาถึง โดยได้ส่งนายเก่งลงด้านหน้าห้องพักแล้วขับรถไปจอดรอบริเวณใกล้เคียง จากนั้นอีกประมาณชั่วโมงกว่า นายเก่งได้เดินมาขึ้นรถ พร้อมให้พาไปที่คลองท่าตะเภา เพื่อนำอาวุธปืนไปทิ้ง กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตามจับกุมดังกล่าว อย่างไรก็ตาม น.ส.นฤมล ยืนยันว่าไม่ได้ร่วมวางแผนกับนายเก่งในการลงมือสังหารหมอปอ แต่หลังนายเก่งก่อเหตุได้ขับรถไปรับจึงทราบว่านายเก่งยิงหมอปอเสียชีวิตแล้ว

     ต่อมาเวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและนักประดาน้ำที่ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ต.สนธิชัย ให้ค้นหาอาวุธปืนที่นายเก่งใช้ก่อเหตุยิงหมอปอเสียชีวิตและผู้ต้องหาให้การว่านำไปโยนทิ้งน้ำหลังก่อเหตุ ซึ่งได้ระดมกำลังกันลงงมค้นหาอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวได้แล้ว เป็นอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ ไม่มีทะเบียน พร้อมปลอกกระสุน 1 นัด และหมวกไหมพรม (หน้ากากไอ้โม่ง) ที่นายเก่งใช้สวมในคืนที่ก่อเหตุด้วย โดยอาวุธปืนและหมวกไหมพรมถูกทิ้งไว้ที่คลองคดศอก หมู่ 8 ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ห่างจากที่เกิดเหตุ รพ.สต.สลุย 18 กิโลเมตร โดยพล.ต.ต.สนธิชัย ได้ไปร่วมตรวจสอบด้วยเพราะถือเป็นหลักฐานสำคัญในคดี

     วันเดียวกัน พนักงานสอบสวน สภ.สลุย ควบคุมตัวนายรณชัย ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิงหมอปอเสียชีวิต ไปขออำนาจศาลจังหวัดชุมพรฝากขังผัดแรกพร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยนายเก่งมีสีหน้าเคร่งเครียดและไม่มีญาติคนใดเดินทางมายื่นขอประกันตัว

     ด้านนายบำรุง ครัวจัตุรัส พี่ชายของหมอปอ กล่าวว่า หลังจากตำรวจจับกุมกิ๊กสาวที่ร่วมก่อเหตุได้ ทำให้พ่อแม่และครอบครัวพอใจ ต้องขอบคุณตำรวจที่ดำเนินการจับกุมคนร้ายได้อย่างทันควัน ซึ่งตอนนี้สภาพจิตใจของครอบครัวดีขึ้นมาก ส่วนศพของน้องสาวหลังจากนี้ครอบครัวเตรียมปรึกษาหารือกันเพื่อกำหนดวันฌาปนกิจศพ คาดว่าน่าจะเป็นสัปดาห์หน้า ส่วนประเด็นเงินสินสอดและทองคำที่หายไปอย่างปริศนา ในวันที่ 25 ธันวาคม ครอบครัวเตรียมไปประสานกับธนาคารหลายสาขาที่น้องสาวนำเงินไปฝากไว้เพื่อขอตรวจสอบเงินในบัญชี รวมถึงการเบิกถอนเงินเพื่อสร้างความกระจ่างในประเด็นสินสอดที่หายไป

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ