ข่าว

ตร.เร่งหาหลักฐานชายอ้างเป็นตำรวจปคบ.ไถเงินแม่ค้า

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตร.เร่งตรวจสอบพยานหลักฐาน โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดว่าชายฉกรรจ์สี่คนที่เข้าไปเรียกรับเงิน1หมื่นบาทจากเจ้าของร้านขายเสื้อผ้าหากไม่ใช่ตำรวจจริงจะถูกเพิ่มข้อหา

 

          วันที่ 16 ธันวาคม 2560  ความคืบหน้า กรณี นส.วราพร ภัทรธนวดี อายุ 46 ปี เจ้าของร้านฟุตบอลช็อป เลขที่ 127/10 ถ.สุขุมวิท ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง เข้าแจ้งความ โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2560 ถูกชายฉกรรจ์ 4 คนอ้างเป็นตำรวจ ปคบ. (ตำรวจกองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค) เข้ามาจับลิขสิทธิ์ขู่ให้ตนเองจ่ายเงิน จำนวน 10,000 บาท โดยหลังจากจ่ายเงินไปแล้วไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้คิดว่า อาจถูกหลอกจึงมาแจ้งความไว้โดยนำภาพจากกล้องวงจรปิด พร้อมคริปเสียงระหว่างการสนทนามาเป็นหลักฐาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวกลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหมดมาดำเนินคดี
  
          โดยหลังจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสอบสวน สภ.เมืองระยอง รับเรื่องเรียบร้อย ได้นำส่งหลักฐาน โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งหมด ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองระยอง ดำเนินการ เพื่อเร่งติดตามตัวกลุ่มชายฉกรรจ์ที่เข้ามาก่อเหตุ โดยนำภาพจากกล้องวงจรปิดที่เห็นใบหน้าและพฤติกรรมขณะก่อเหตุประสานไปที่หน่วยงานต้นสังกัดที่ถูกอ้างซึ่งหน่วยงานดังกล่าวนั้นเป็นหน่วยงานส่วนกลางไม่ได้อยู่ในพื้นที่ จึงต้องใช้เวลาในการติดต่อประสานงาน จึงจะสามารถรู้ว่ากลุ่มคนดังกล่าวนั้น เป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ โดย เบื้องต้น ถ้าพบการกระทำผิดจะถูกดำเนินคดี ข้อหา ร่วมกัน กรรโชกทรัพย์ และถ้า พบว่า ไม่ใช่ เจ้าหน้าที่ ก็เพิ่มข้อหา แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงาน อีก 1 ข้อหา
     
          สำหรับพฤติกรรม กลุ่มชายฉกรรจ์ ทั้งสี่คน ทำทีเข้ามาเดินดู เสื้อผ้า ในร้าน จากนั้น หนึ่งในสี่ ได้เข้ามาพูดกับ น.ส.วราพร ผู้เสียหาย ว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. ชื่อ ผู้กองเก่ง ที่ร้าน มีของผิดกฎหมาย ของเลียนแบบหากถูกดำเนินคดีต้องยุ่งยากจ่ายเยอะหากจ่ายตรงนี้ก็จบ โดยให้ผู้เสียหายเสนอเงินมาก่อน แต่พอเสนอน้อย ก็อ้างว่า ไปจับที่อื่นมา ได้มากกว่านี้ ต่อรองไปมา ก็จบที่ หนึ่งหมื่นบาท

          ซึ่ง นส.วราพร  พยายามจะขอดูบัตรตำรวจ ชายที่อ้างว่าคือ ผู้กองเก่ง ก็ควักบัตรมาให้ดูแปบเดียว มองไม่ทัน แต่ ได้ให้เบอร์โทรศัพท์ไว้เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าเป็นตำรวจจริง ด้วยความกลัว เพราะ นส.วราพร อยู่ที่ร้านคนเดียว จึงยอมจ่ายเงินหนึ่งบาทให้ไป หลังจากนั้น ได้พยายามติดต่อตามหมายเลขที่ให้มา เพราะอยากรู้ว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ ผ่านไปหลายวัน ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงเข้าปรึกษากับผู้ใหญ่หลายๆคน แนะนำว่า ให้เข้าแจ้งความ จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดี

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ