ข่าว

นำตัวครูอ๋องฝากขัง-ค้านประกันตัว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จนท.นำตัว “ครูอ๋อง” ฝากขังศาลนครพนม พร้อมกับคัดค้านการประกันตัว ขณะที่ นางทัศนีย์ หาญพยัฆย์ พยานสำคัญในวันเกิดเหตุได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนแล้ว


                28 พ.ย.60 เมื่อเวลา 9.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม ได้นำตัว นายสุริยา นวนเจริญ หรือ “ครูอ๋อง” ผู้ต้องหาสร้างพยานเท็จในคดีครูจอมทรัพย์ โดยนำตัวครูอ๋อง ในสภาพถูกสวมใส่กุญแจมือออกจากห้องควบคุมตัวผู้ต้องหา ไปขึ้นรถตู้ที่ได้เตรียมมา นำไปส่งยังชั้นสี่เพื่อเตรียมทำเอกสาร ขอฝากขังต่อศาลจังหวัดนครพนม โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตังครูอ๋อง ด้วย

               มีรายงานล่าสุดว่า นางทัศนีย์ หาญพยัฆย์ ประจักษ์พยาน ที่ให้การระบุว่าเห็นคนขับรถคันก่อเหตุเป็นผู้ชายเดินลงมาดูผู้ตาย ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมายเรียกครั้งที่ 2 ก็ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนแล้วตั้งแต่เวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนงดถ่ายภาพพยาน

              พล.ต.ต. สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภจว.นครพนม เปิดเผยว่า นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์  พยานที่เห็นเหตุการณ์นั้นให้การว่าตนเป็นคนหลง ๆ ลืม ๆ มักป่วยเป็นความดันโลหิตสูงบ่อย ๆ จึงอาจจดจำอะไรไม่ได้เท่าที่ควร จึงขอยืนยันเอาคำให้การในชั้นพนักงานสอบสวนครั้งแรกเป็นหลัก ซึ่งคาดว่าหลังจากสอบปากคำเสร็จแล้วจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาว่าแจ้งความเท็จ แล้วจะปล่อยตัวให้กลับบ้าน เนื่องจากนางทัศนีย์ เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเอง ส่วนนางทองเรศ วงค์ศรีชา พยานอีกคนหนึ่งที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาด้วยกันในวันเกิดเหตุ ก็เดินทางมาด้วยถึงแม้จะไม่ได้หมายเรียกเจ้าหน้าที่จึงสอบไว้เป็นพยานต่อไป

               ในส่วนของครูอ๋องขณะนี้ ครูอ๋องให้การภาคเสธ คือแบ่งรับแบ่งสู้ โดยรับว่าได้ว่าจ้างนายสับ วาปีจริง เพราะต้องการช่วยเหลือครูจอมทรัพย์ และคำให้การของครูอ๋องเกี่ยวพันกับขบวนการต่าง ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์พอสมควร มีรับบางข้อกล่าวหาเช่น กรณีเป็นคนเอานายสับมา ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์กับรูปคดี ที่เอามาเพราะเชื่อว่านายสับเป็นคนขับรถจริง การว่าจ้างนายสับเพราะนายสับไม่อยากเข้ามายุ่งเกี่ยวกับคดี เลยต้องว่าจ้างยอมเสียค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการเดินทางเพื่อที่จะมาเป็นผู้ต้องหาในคดี ส่วนเงิน 170,000 บาท ครูอ๋องรับสารภาพว่าเป็นของตนจริง

               สำหรับในส่วนที่เกี่ยวข้องกับทางกระทรวงยุติธรรมนั้น พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.4 ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน จะทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงฯ เรียกเจ้าหน้าที่ที่มีชื่อในคำสั่ง มาให้ปากคำกับตำรวจ ว่ามีหน้าที่อะไร ได้รับคำร้อง ดำเนินการอะไรบ้าง ที่ไหนเมื่อไหร่ให้ชัดเจน ว่าอยู่ในกรอบของกฎหมายหรือไม่ สอบทุกคนที่เกี่ยวข้องในคดี เบื้องต้นมีทั้งหมด 2 คำสั่ง ที่กระทรวงยุติธรรมได้ตั้งมา 2 ชุด ประมาณ 14 คน จะเชิญมาสอบที่ บช.ภ.4 จังหวัดขอนแก่น ในวันที่ 30 พ.ย. โดย เรียกมาให้ข้อมูลในฐานะผู้ปฏิบัติงาน ไม่ได้เป็นผู้ถูกกล่าวหาแต่อย่าง โดยจะ ต้องมีการสอบสวนให้ชัดเจน เสียก่อน

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ