จับเรือประมงพื้นบ้านค้ากัญชาแห้งอัดแท่งมูลค่า 12 ล้าน

               27 พ.ย. 60  ที่ บริเวณหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา  พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วย นายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พล.ต.ต.บุญทวี โตรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา ทหารฐานทัพเรือพังงา ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดพังงา ตำรวจน้ำ ป.ป.ส.ภาค 8

               ร่วมแถลงข่าวการจับกุม นายบุญคุ้ม บ่อม่วง หรือ กีม หรือ กี้ อายุ 31 ปี อาชีพประมงพื้นบ้าน ชาว ต.เขาคราม อ.เมืองกระบี่ นายราชันย์ ทองเอียด หรือ หมาน อายุ 27 ปี อาชีพประมงพื้นบ้าน ชาว ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ นายสกฤษฎ์ ทองเอียด หรือ ฮัน อายุ 25 ปี อาชีพประมงพื้นบ้าน ชาว ต.อ่าวลึกน้อย อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ นายเถลิงศักดิ์ ธันยุพักตร์ หรือ หยัด อายุ 36 ปี อาชีพประมงพื้นบ้าน ชาว ต.อ่าวลึกน้อย อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ และนายมาโนช ถิ่นทะเล หรือ อุด อายุ 37 ปี อาชีพประมงพื้นบ้าน ชาว ต.เกาะยาวน้อย อ.เกาะยาว จ.พังงา

               พร้อมด้วยของกลางกัญชาแห้งอัดแท่งรวม 450 แท่ง น้ำหนักประมาณ 450 กิโลกรัม เรือหัวโทง 1 ลำ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่ามีการลักลอบจำหน่ายกัญชาอัดแท่งโดยการขนส่งกันทางทะเล จึงทำการล่อซื้อจากนายบุญคุ้มและนายราชันย์ ซึ่งมีนายเถลิงศักดิ์เป็นเจ้าของเรือ โดยทั้งหมดได้ขนของกลางใส่เรือหัวโทงมาจอดรออยู่ที่บริเวณป่าโกงกาง ใกล้ท่าเรือบ้านท่าด่าน ม.1 ต.เกาะปันหยี อ.เมืองพังงา

               ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจู่โจมเข้าปิดล้อมจับกุมทั้งทางเรือและทางบก ได้ของกลางเป็นกัญชาแห้งอัดแท่ง 300 แท่ง ใส่อยู่ในกระสอบอาหารปลาภาษาเวียดนามรวม 8 กระสอบ จากนั้นได้ขยายผลไปตรวจยึดเพิ่มเติมที่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ อีก 150 แท่ง โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชาอัดแท่ง) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งทางผู้ต้องหารับสารภาพว่ากัญชาอัดแท่งเป็นของ บังหลี ชาวสตูล ส่งให้เจ๊สาว ชาวกระบี่ โดยถูกจ้างมาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่พังงา ทั้งหมดในราคา 60,000 บาท จากนั้นนำส่ง พ.ต.ท.เสน่ห์ อุโคตร สว.สอบสวน สภ.เมืองพังงา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

               พล.ต.ท.สรศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่จะจับยาเสพติดได้บนฝั่ง การจับกุมครั้งนี้ถือว่าเป็นการจับกุมทางทะเลได้ครั้งแรกในรอบ 10 ปี ซึ่งคาดว่านักค้ายาเสพติดจะเปลี่ยนพฤติกรรมในการลักลอบค้าขายยาเสพติด แต่ก็ไม่พ้นหูตาตำรวจ โดยครั้งนี้เป็นการบูรณาการทุกหน่วยงานทั้งตำรวจ ทหาร ป.ป.ส. ฝ่ายปกครอง จึงสามารถจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งหากรอดพ้นไปได้ ยาเสพติดดังกล่าวจะมีมูลค่ากว่า 12 ล้านบาท นับว่าเป็นผลงานที่ดีเยี่ยมของทุกฝ่ายในจังหวัดพังงา