สนธิกำลังค้นบ้านเป้าหมายค้ายาเสพติด รวบ 4 ผู้ต้องหาพร้อมกัญชาอัดแท่ง จำนวน 83 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
เมื่อเวลา 21.00 วันที่ 22 พ.ย.60 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สะเดา ร่วมกับ ชุด บช.ปส. กก.3 บก.ปส. ชุดสืบสวน กก.6 บก.ปคม.และชุด กก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ. 9 เข้าทำการตรวจค้น บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ในสวนยางพารา ถ.สายเขาเล่-หมู่บ้านตัวอย่าง เขตเทศบาลเมืองสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ได้ผู้ต้องหา 4 ราย หลังจากมีสายลับแจ้งว่านายพงษ์พัฒน์ หรือ เขียว สังมัน อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดนาทวี ที่ 283 /2560 ลงวันที่ 29 สิงหาคม 2560 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” ซึ่งได้หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแล้ว จำนวน 2 ครั้ง และบุคคลดังกล่าวมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติด ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว น่าจะมียาเสพติด (กัญชา) ซุกซ่อนอยู่ และมีกลุ่มวัยรุ่นทั้งหญิงชายที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ขณะกำลังจะวิ่งหลบหนี
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบ น.ส.ดวงทิพย์ หรือ ทิพย์ ด้วงมาก อายุ 32 ปี , นายพงศภัค หรือ บุ้ม หุ้ยล่อง อายุ 20 ปี , นายกิติพงศ์ หรือ เถิก สังมัน นั่งอยู่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อบุคคลทั้งสามเห็นและทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงแสดงอาการพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงขอทำการตรวจค้นโดยรอบบ้านพบกัญชาอัดแท่งพันด้วยสก็อตเทปใส บรรจุในถุงพลาสติกสีดำ และในลังเบียร์ซ่อนอยู่ในพงหญ้ารวม 39 แท่ง และค้นพบกัญชาในลักษณะเดียวกันอีก 44 แท่ง บรรจุรวมอยู่ในกระสอบสีขาวและห่อด้วยผ้าอีกชั้นหนึ่งฝังอยู่ในพื้นดินภายในสวนยางพาราข้างบ้านที่เกิดเหตุ รวมกัญชาทั้งหมด 83 แท่ง น้ำหนัก 83 กิโลกรัม
จากการสอบสวนเบื้องต้นมีข้อมูลว่ากัญชาทั้งหมดน่าจะเป็นของ น.ส.ดวงทิพย์ ที่รับช่วงต่อมาจากสามีซึ่งถูกจับกุมในข้อหาพัวพันกับยาเสพติดเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งในขั้นต้น น.ส.ดวงทิพย์ ยังให้การปฎิเสธ แม้ว่าผู้ต้องหาคนอื่นๆ จะซัดทอดก็ตาม โดยที่กัญชาทั้งหมดหากตกไปสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่ากว่า 10 ล้าน 5 แสนบาท
เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชาอัดแท่ง) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” และนายพงษ์พัฒน์ ได้เพิ่มข้อกล่าวหา “ชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” ตามหมายจับของศาลจังหวัดนาทวี ที่ 283/2560 ลงวันที่ 29 สิงหาคม 2560 นำตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.สะเดา เพื่อสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง