ข่าว

‘วรรณา’ กลับไทยปฏิเสธบึ้มราชประสงค์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สาวพังงากลับไทยแสดงความบริสุทธิ์ใจ ไม่เกี่ยวข้องแก๊งบึ้มราชประสงค์ ตร.ดักแจ้งข้อกล่าวหาคาสุวรรณภูมิ ‘ศรีวราห์’ รับตัว หิ้วส่งศาลทหาร 23 พ.ย.นี้


               22 พ.ย. 60  เมื่อเวลา 17.30 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)  พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมชุดสืบสวน รับตัว นางสาววรรณา หรือ ไมซาเราะ สวนสัน อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 232 หมู่ 6 ต.คุระ อ.คุระบุรี จ.พังงา ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีร่วมกับพวกอีก 17 คน ก่อเหตุระเบิดศาลท้าวมหาพรหม เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2558 ซึ่งเป็นคนที่มีชื่อเป็นผู้เช่าบ้านให้กับกลุ่มผู้ต้องหา หลังจับได้ภายหลังสืบสวนทราบว่าเดินทางกลับเข้ามาประเทศไทย โดยผ่านช่องทางสนามบินสุวรรณภูมิ โดยทันทีที่ น.ส.วรรณา เดินทางมาถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ครอบครัวของ น.ส.วรรณา ได้มารอรับและโผเข้ากอดกันร่ำไห้ ในการเดินทางมาครั้งนี้ น.ส.วรรณา เดินทางมากับลูกทั้ง 2 คน วัย 3 ขวบ และ 1 ขวบครึ่ง ทั้งนี้ ตำรวจได้คุมตัว น.ส.วรรณา โดยไม่มีการพันธนาการแต่อย่างใด นำตัวไปตรวจร่างกายโดยมีตำรวจหญิงดูแล จากนั้นได้แจ้งข้อหาให้ทราบ โดยมีนายบดีศร เผ่าสุทอ ทนายจากสภาทนายความ พี่ชาย น.ส.วรรณา และนายอิบรอเหม คมขำ ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมอยู่ด้วย

               พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า ด้วยเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2558 เวลาประมาณ 18.50 น. เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ศาลพระพรหมเอราวัณ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย ทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก คดีนี้ ตร.แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับคนร้าย คดีอาญาที่ 1172/2558 ของ สน.ลุมพินี และต่อมาได้มีการจับกุมตัว นายไบลาล มูฮัมหมัด และนายไมไรลี ยูซุฟู รวม 2 ราย นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือจำนวน 15 ราย รวมทั้ง น.ส.วรรณา และนายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู สามีชาวตุรกี ได้หลบหนี ศาลทหารกรุงเทพได้อนุมัติหมายจับไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับและสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งรัด ติดตาม จับกุมคนร้ายที่เหลือมาดำเนินคดีโดยเร็ว

               พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยด้วยว่า เวลาประมาณ 12.00 น. วันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการตน พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช รรท.ผบช.น. , พ.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 , พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รรท.รอง ผบช.ส. , พล.ต.ต.ชาติชาย เอี่ยมแสง ผบก.ประจำ บช.ก. สืบทราบทางการข่าวว่า น.ส.วรรณา ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีดังกล่าว จะเดินทางกลับเข้ามาประเทศไทย โดยผ่านช่องทางสนามบินสุวรรณภูมิ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ร่วมกันทำการจับกุมตัว น.ส.วรรณา ได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมแจ้งข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันทำให้เกิดระเบิดจนเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย และทำให้เสียทรัพย์ , ร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะแต่การสงครามที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในครอบครอง , พาอาวุธ (วัตถุระเบิด) ไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร , ร่วมกันมียุทธภัณฑ์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามหมายจับศาลทหารกรุงเทพ เลขที่ 84/2558 ลงวันที่ 25 กันยายน 2558 นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

               พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า คดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 17 คน จับได้แล้ว 3 คน น.ส.วรรณา คือรายที่ 3 โดยการจับกุมครั้งนี้ไม่ใช่การส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน แต่เป็นการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ เมื่อสืบทราบว่าจะเดินทางกลับประเทศไทย ส่วนเรื่องการประสานงานกับทางการตุรกี ตนไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องของต่างประเทศ และเป็นเรื่องของอัยการสูงสุด ส่วนครั้งนี้ น.ส.วรรณา เดินทางมาจากประเทศใด ตนไม่ทราบ คดีนี้สรุปสำนวนส่งอัยการศาลทหารไปนานแล้ว กระบวนการหลังจากนี้ ตำรวจจะส่งตัว น.ส.วรรณา ให้อัยการศาลทหาร เพื่อควบคุมตัวตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป ตอนนี้ยังไม่สอบปากคำ ไม่ทราบว่า น.ส.วรรณา ให้การอย่างไร แต่ทุกอย่างอยู่ในสำนวน อยู่ที่ศาลทหารแล้ว ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 14 คน นั้นยังคงเร่งรัดติดตาม ทั้งที่อาจอยู่ในประเทศหรือหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว

               นายอิบรอเหม คมขำ ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า รู้จัก น.ส.วรรณา มาตั้งแต่เด็ก เป็นเด็กที่โตมาในชนบท กรีดยางมาตั้งแต่เด็ก จนมาทราบว่ามีสามีเป็นชาวตุรกี มาแต่งงานกันที่บ้านที่ตุรกี คาดว่ารู้จักชอบพอกันช่วงที่ น.ส.วรรณา มาเรียนที่กิโลเมตร ตนเจอสามี น.ส.วรรณา ครั้งแรกตอนมาแต่งงาน มีเพื่อนต่างชาติมาร่วมงานด้วย แต่ไม่ทราบว่าเป็นคนที่อยู่ในหมายจับหรือไม่ ทราบแต่ว่า สามี น.ส.วรรณา พูดภาษาไทยไม่ได้ ทำธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ โดยเจอครั้งล่าสุด น.ส.วรรณา และสามี ซึ่งปกติอยู่ กทม. เดินทางกลับมาที่พังงา ประมาณเดือนพฤษภาคม 2558 เพื่อทำเอกสารเดินทางออกนอกประเทศไปตุรกี และเดินทางออกไปเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต

               ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุ น.ส.วรรณา ถูกออกหมายจับ โดยตัวอยู่ที่ตุรกี ทราบว่ามีการติดต่อพูดคุยกับทางบ้านที่พังงาโดยตลอด เพื่อขอให้ช่วยเหลือ โดย น.ส.วรรณา ยืนยันว่า ไม่ได้ทำผิด ทางบ้านก็พยายามเดินเรื่องช่วยเหลือให้เดินทางกลับไทย มีการยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือไปถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อประสานงาน เดินเรื่องให้กลับมาประเทศไทย โดยคุยกันว่า เราคนไทย ถึงอย่างไรก็ให้กลับมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยวันนี้ก็มีตำรวจมาประสานงาน ดำเนินการเพื่อให้ น.ส.วรรณา ได้มอบตัวตามความตั้งใจของเจ้าตัว

               พี่สะใภ้ของ น.ส.วรรณา อายุ 40 ปี เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ครอบครัวดีใจที่ น.ส.วรรณา เดินทางกลับประเทศไทย จึงเดินทางจากจังหวัดพังงาเพื่อมารอรับ หลังจากที่ไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อปี 2558 การกลับมาครั้งนี้เป็นความตั้งใจของ น.ส.วรรณา เพื่อมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง เพราะยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด โดยนับตั้งแต่เกิดเหตุและถูกออกหมายจับ น.ส.วรรณา ซึ่งอยู่ที่ประเทศตุรกี ก็ตั้งใจจะกลับประเทศไทยมาโดยตลอด เพื่อมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่ระหว่างนั้นถูกควบคุมตัวไว้ ถูกกักบริเวณในสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งตนไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นที่ใดในประเทศตุรกี โดยถูกจับตัวไว้พร้อมสามีตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อปี 2558 กระทั่งล่าสุดได้เดินทางกลับมาในประเทศไทยในวันนี้ น.ส.วรรณา บอกว่า จะเดินทางออกจากตุรกีเวลา 02.00 น. ของเมื่อคืนที่ผ่านมา และจะถึงประเทศไทยเวลา 18.00 น. ของวันนี้ แต่มีการเปลี่ยนแปลงไฟลท์เที่ยวบินทำให้มาถึงตั้งแต่เวลา 15.00 น. ครอบครัวรู้สึกดีใจมากที่ได้เจอน้องและได้พบหลานอีก 2 คน คนหนึ่งอายุสามขวบอีกคนขวบครึ่ง

               พี่สะใภ้ของ น.ส.วรรณา กล่าวว่า ตั้งแต่ถูกออกหมายจับเมื่อปี 2558 ก็คุยกับ น.ส.วรรณา มาตลอด น.ส.วรรณา ยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด อยากจะกลับประเทศไทยตลอดแต่กลับไม่ได้ ครั้งนี้กลับมาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ

               ขณะที่ น.ส.วรรณา ยอมรับว่า เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ โดยคืนนี้ตำรวจคุมตัวไว้ที่ห้องขัง สน.ลุมพินี และพรุ่งนี้ (23 พ.ย.) เวลา 08.00 น. จะคุมตัวฝากขังที่ศาลทหารต่อไป

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ