ออกหมายจับเพิ่ม 3 ผตห.คดีวิวาท นศ.ดับ 1

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากคดีเหตุทะเลาะวิวาทที่สถานบันเทิงใกล้มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และใกล้ สภ.แม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ โดย นศ.แม่โจ้ ถูกพนักงานในร้านรุมทำร้ายด้วยอาวุธจนเสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บอีก 6 คน ที่ได้มีการจับกุมผู้ก่อเหตุแล้ว จำนวน 4 ราย ล่าสุดช่วงเช้าวันนี้ ทางผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า กลุ่มนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จะได้มีการรวมตัวเดินทางมาที่ ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อร้องเรียนกับ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขออำนาจผู้ว่าฯ ในการเร่งดำเนินการในคดีนี้ เนื่องจากเกรงว่าคดีจะไม่คืบหน้าเนื่องจากมีผู้มีอิทธิพลมาเกี่ยวข้อง เพราะเชื่อว่าร้านโอเชี่ยนนั้น มีผู้มีอิทธิพลหนุนหลัง แต่หลังจากที่กองทัพสื่อมวลชนรอการเดินทางมาของ กลุ่ม นศ. จนถึงช่วงเที่ยง กลับไม่มีการปรากฏตัวแต่อย่างใด
               ขณะที่ทางด้าน พล.ต.ต.พิทยา ศิริรักษ์ รอง ผบช.ภ.5 ก็ได้เดินทางมาที่ศูนย์ราชการเชียงใหม่ และเปิดเผยความคืบหน้า คดีดังกล่าวว่า ขณะนี้ทางตำรวจได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน และยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจในการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และ คดีที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของผู้มีอิทธิพลแต่อย่างใด
               พล.ต.ต.พิทยา เปิดเผยว่า สำหรับข้อสงสัยว่าทำไมถึงมีการอนุญาตให้สถานบริการตั้งอยู่ใกล้กับสถานีตำรวจ เพียง 20 เมตรนั้น ซึ่งในข้อเท็จจริงแล้วนั้นสภ.แม่โจ้ ได้มาตั้งทีหลังสถานบริการในพื้นที่ เนื่องจากสถานีตำรวจแม่โจ้เดิมทีขึ้นกับพื้นที่สันทราย แต่ต่อมาทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้ร้องขอให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยดูแลในพื้นที่ เนื่องจากมีจำนวนนักศึกษา และบุคลากร จำนวนมากอยู่ในพื้นที่ ทางตำรวจภูธรภาค 5 จึงได้มีการเพิ่มสถานีตำรวจในพื้นที่ขึ้นมาเมื่อช่วงปีก่อน และยังมีการดำเนินการก่อสร้างในส่วนของตัวอาคารอยู่ ส่วนในเรื่องกรณีของผู้กำกับสถานีตำรวจแม่โจ้นั้น ทาง พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ. 5 ก็ได้มีการสั่งการให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนและ ตรงไปตรงมา
               ขณะเดียวกันในส่วนของกรณีที่ว่าทางเจ้าของสถานบันเทิงแห่งนี้เป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลหรือไม่อย่างไรนั้น จากการตรวจสอบทางตนยืนยันว่าไม่ได้มีอิทธิพลแต่อย่างใด และเป็นคนธรรมดาทั่วไป และได้มีการจับกุมตัวผู้ก่อเหตุแล้วจำนวน 4 คน และยังอยู่ในระหว่างการออกหมายจับอีก 3 คน และคาดว่าจะได้ตัวครบทั้ง 7 คน ในเร็วๆ นี้ ซึ่งตั้งแต่ทราบเรื่องโดยมีการขอหมายศาลตามระเบียบการดำเนินการทุกอย่าง ส่วนคำถามว่าหากมีการถูกสั่งปิดบริการแล้วมีการเปลี่ยนชื่อสถานบริการใหม่ แล้วมาเปิดอีกครั้งนั้นก็ไม่สามารถดำเนินการได้แน่นอน เนื่องจากต้องปฏิบัติตามคำสั่ง คสช.
               อย่างไรก็ตามทราบว่าขณะนี้ทาง สภ.แม่โจ้ ก็กำลังทำเรื่องเพื่อขอเสนอปิดสถานบริการดังกล่าว โดยอาจจะต้องใช้เวลาในการดำเนินการ แต่ทางสถานบริการเองก็ได้หยุดดำเนินการไปแล้ว โดยหากมีการสั่งปิดก็จะเป็นการปิดยาวไม่เกิน 5 ปี และในส่วนของการตั้งข้อหากับผู้ต้องหาในเบื้องต้นนั้น ข้อหาหลักๆ มี ข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย , เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต , พกพาอาวุธปืนไปในที่ชุมชน และ ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บถึงสาหัสโดยประมาท
               ขณะที่ทางด้าน นายชัช พชรธรรมกุล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เปิดเผยว่า สำหรับเรื่องของการดำเนินคดีขณะนี้ทางตน รวมทั้งมหาวิทยาลัยมั่นใจในการทำงานของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกระบวนการความยุติธรรม เนื่องจากมีหลักฐานที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นกล้องที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุ และภาพถ่าย รวมไปถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สามารถติดตามคดีได้อย่างรวดเร็ว ที่ขณะนี้สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว 4 คน ส่วนทางมหาวิทยาลัยนั้นก็ได้มีการติดตามความคืบหน้าและการประสานงานอย่างใกล้ชิด เนื่องจากกรณีที่เกิดขึ้นนี้ถือเป็นเรื่องที่มีความสะเทือนใจกับทางมหาวิทยาลัย และบรรดาศิษย์เก่า แต่ทุกฝ่ายก็มีความเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยการเดินทางมาในวันนี้เป็นเพียงต้องการทวงถามหรือมาแสดงเชิงสัญลักษณ์ในความห่วงใย เนื่องจากเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน
               “กรณีที่เกิดขึ้นนี้ ก็มีผลกระทบกับเทือนกับจิตใจของบรรดานักศึกษาของมหาวิทยาลัยอยู่บ้าง เนื่องจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้นั้นมีความรักความผูกพันกันระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องในสถาบัน แต่เมื่อทราบรายละเอียดและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทุกฝ่ายก็เข้าใจ และพยายามที่จะดำเนินการกวดขันกันอย่างจริงจัง ซึ่งก็ได้เป็นไปตามนโยบายของทางท่านอธิการบดีมหาวิทยาลัยฯ เกี่ยวกับการดำเนินการกับสิ่งผิดกฎหมายที่อยู่ใกล้รั้วมหาวิทยาลัย หากมีอำนาจตามกฎหมาย ทางมหาวิทยาลัยก็จะไม่ให้มี อย่างไรก็ตามมหาวิทยาลัย รวมทั้งตำรวจ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องก็มีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดเพื่อให้เกิดความมั่นใจในการดำเนินการกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้อยู่แล้ว” รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าว