นำรถ นพ.ยอร์น จำลองเหตุการณ์ชนทับ รปภ.

               15 พ.ย. 60  เมื่อเวลา 10.30 น.  พ.ต.อ.ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดนนทบุรี นำรถของ นพ.ยอร์น จิระนคร มาตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติ่ม ทั้งร่องรอยการชนและคราบเลือดที่ติดอยู่ข้างประตูรถ ก่อนนำไปเปรียบเทียบตรงจุดที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบวิถีการมองเห็นของคนขับ และจุดที่พุ่งชนประตูเหล็ก เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมาทาง พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ได้มีการจำลองเหตุการณ์จริง แต่ไม่ได้นำรถคันเกิดเหตุมาทดลอง จึงยังไม่สามารถสรุปผลทดสอบได้ แต่ได้ตรวจสอบแสงสว่างตรงจุดเกิดเหตุพบว่า บริเวณนั้นไม่ได้มืดจนมองไม่เห็น

 

 

               กระทั่งเวลา 13.00 น. ที่ ประตู 2 กระทรวงสาธารณสุข อ.เมือง จ.นนทบุรี  พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ได้เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งจำลองเหตุการณ์ โดยนำรถฮอนด้า บริโอ อเมซ สีขาว ทะเบียน 2 กฒ 7552 กทม. สภาพฝากระโปรงหน้าพังยับจนไม่สามารถขับได้ของ นพ.ยอร์น ที่ใช้ขับขี่ในวันเกิดเหตุมาทดลองจำลองเหตุการณ์ พร้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานนำน้ำยาเคมีมาทำการตรวจหาคราบเลือดบนพื้นผิวถนนและรอบตัวรถ เพื่อหาดีเอ็นเอนำไปเปรียบเทียบกับ นายสมชาย ยามดี รปภ.ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นจึงจำลองเหตุการณ์เริ่มจากจุดที่รถวิ่งพุ่งชนหน้าประตู ซึ่งขณะนั้นปิดอยู่ทั้ง 2 บาน จนร่าง รปภ.กระเด็นไปนอนนิ่งอยู่ที่พื้นถนนหน้ารถ ก่อนที่รถจะขับเคลื่อนไปข้างหน้าจนทับร่าง รปภ.เข้าไปติดอยู่ใต้ท้องรถ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นจึงให้เจ้าหน้าที่เข้าไปทำการทดลองนั่งตรงที่นั่งคนขับเพื่อทดสอบการมองเห็นจากภายในรถทุกมุม พร้อมถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานนำไปประกอบสำนวนคดี โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชม.

               พล.ต.อ.ดร.วิระชัย กล่าวว่า วันนี้เป็นการจำลองเหตุการณ์เหมือนจริงอีกครั้ง เนื่องจากเมื่อคืนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการนำรถมาทดลองดูแล้วแต่ยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน เนื่องจากรถที่นำมาใช้นั้นไม่ใช้รถรุ่นเดียวกัน อาจมีความคลาดเคลื่อน จึงต้องนำรถที่เกิดเหตุจริงมาจำลองเหตุการณ์ในวันนี้ ก็พบว่า คนขับรถสามารถมองเห็นสิ่งรอบข้างจากภายในกระจกรถได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้การตรวจสอบแสงส่องสว่างในจุดเกิดเหตุเมื่อคืนนี้ แสงไฟส่องสว่างในบริเวณดังกล่าว มีแสงสว่างเพียงพอที่จะมองเห็นทัศนียภาพรอบข้างได้ดี มั่นใจว่า จะสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้อย่างแน่นอน

 

 

               ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ห้องเช่าซึ่งอยู่ใกล้กับกระทรวงสาธารณสุขของแม่นายสมชาย อายุ 58 ปี เพื่อสอบถามความรู้สึกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยแม่ของ รปภ.กล่าวทั้งน้ำตาว่า อยากให้ลูกหายกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปรกติเหมือนเดิม เพราะเป็นเสาหลักของครอบครัว ถึงเขาจะมีครอบครัวของเขาอยู่แล้ว แต่ทุกสิ้นเดือนลูกก็จะนำเงินมาให้เป็นค่ารักษาตนและค่าใช้จ่ายภายในบ้าน หลังเกิดเหตุได้เดินทางไปเยี่ยมลูกชายที่ รพ. ก็รู้สึกช็อก ทำใจไม่ได้กับสภาพที่ลูกชายเป็น จนกินข้าวไม่ได้นอนไม่หลับมาตลอด

               จากการสอบถาม นพ.สกล สุขพรหม ถึงอาการล่าสุดของนายสมชาย ยังคงมีอาการทรงตัว วัดชีพจรอยู่ในเกณฑ์ปกติ คนไข้เริ่มมีอาการตื่นตัว บางครั้งสามารถทำตามที่สั่งได้ เช่น กระดิกนิ้ว ขยับแขนและขา ตอนนี้ทางการรักษายังไม่มีการถอดเครื่องช่วยหายใจ แต่บางครั้งก็พยายามให้คนไข้หายใจด้วยตัวเอง ส่วนการเฝ้าระวังยังคงนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ICU