ข่าว

‘ครูจอมทรัพย์’ ลุ้นคำพิพากษาศาลฎีกา 17 พ.ย.นี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศาลจังหวัดนครพนมนัดอ่านคำพิพากษา คดีครูจอมทรัพย์ ถูกกล่าวหาขับรถชนคนตาย วันศุกร์ที่ 17 พ.ย.60 เวลา 13.00 น.



               จากกรณี นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร วัย 54 ปี อดีตครูโรงเรียนบ้านม่วงไข่ประชาราษฎร์สงเคราะห์ ต.ด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ถูกกล่าวหาขับรถชนคนตาย และศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งขอให้รื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ และล่าสุดศาลจังหวัดนครพนม ได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ รฟ.1/58 หมายเลขแดงที่ 2/58 คดีระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดนครพนม เป็นโจทย์ นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ผู้ร้องและจำเลย ในเรื่องความผิดประมาทต่อชีวิต ความผิดต่อพระราชบัญญัติจราจรทางบก ตาม พ.ร.บ.การรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ พ.ศ.2526 มาตรา 9 ในวันศุกร์ที่ 17 พ.ย.60 เวลา 13.00 น.
               ด้านนางจอมทรัพย์ หรือ ‘ครูอ๋อย’ ซึ่งอาศัยอยู่ที่บ้านม่วงไข่ ต.ด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย อาศัยอยู่กับสามี และลูก และยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง หลังทราบหมายนัดอ่านคำพิพากษาศาลฏีกา ว่า รู้สึกดีใจ และตื้นตันกับสิ่งที่รอคอยมานาน ส่วนผลจะออกมาอย่างไร ตนเองก็จะขอน้อมรับคำสั่งศาล ก็ถือว่าตนเองได้ต่อสู้แล้ว เราได้ให้สังคมรับรู้แล้ว ได้ต่อสู้ตามขั้นตอนของกฏหมาย

          "ถ้าผลของคำพิพากษาว่าเป็นคนผิด ก็จะใช้ชีวิตตามแนวทางเศษฐกิจพอเพียง และเดินเรื่องขอกลับเข้ารับราชการ แต่ว่าเราจะยังมีมลทินอยู่"นางจอมทรัพย์ กล่าว

         นางจอมทรัพย์ กล่าวอีกว่า หากศาลบอกว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ ก็จะก้มหน้าขอทำงานตอบแทนสังคมที่ให้โอกาส และขอเดินตามรอยทางของพ่อหลวง น้อมนำแนวเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต แต่สิ่งที่จะต้องทำตามที่ตั้งใจและอธิษฐานไว้ คือการทำบุญมอบชุดขาวปฏิบัติธรรมให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำ
         ส่วนในเรื่องขอกลับเข้ารับราชการครูนั้น นางจอมทรัพย์ กล่าวว่า จะเดินหน้าต่อไป เพราะตนเองรักและภูมิใจในอาชีพครู ได้ทุ่มเทให้กับอาชีพนี้มาตลอดชีวิตที่เข้ารับราชการ ห่วงเด็กนักเรียนที่ขาดโอกาส ตนทำงานขาดช่วงไว้ จะขอกลับไปสานต่อ เพราะก่อนที่จะเข้าไปอยู่เรือนจำ จำนวนเด็กที่โรงเรียนมี 300 - 400 คน แต่ตอนนี้ลดลงเหลือเกือบครึ่ง

          "ดิฉันเชื่อว่าเป็นเพราะดิฉันสร้างมลทินให้กับโรงเรียน จึงอยากจะกลับไปสานต่อและลบล้างมลทิน กอบกู้ศักดิ์ศรีของโรงเรียนกลับคืนมา พร้อมกันนี้ขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ คือ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงคุณมาร์ค พิลบูล ที่ได้รวบรวมเงินจากประชาชนที่ส่งมาให้ตนต่อสู้คดี และใช้จ่ายหนี้เงินกู้นอกระบบ จนทำให้ชีวิตดีขึ้น"นางจอมทรัพย์ กล่าว 

          ทั้งนี้  คดีดังกล่าว สืบเนื่องจากกรณีที่นางจอมทรัพย์ ถูกกล่าวหาว่าขับรถกระบะหมายเลขทะเบียน บค 56 สกลนคร ชนนายเหลือ พ่อบำรุง เสียชีวิต เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.นาโดน อ.เรณูนคร จ.นครพนม เมื่อปี 2548 กระทั่งศาลพิพากษาเมื่อปี 2556 ให้จำคุก 3 ปี 2 เดือน และได้รับอภัยโทษออกมาเมื่อปี 2558 รวมถูกจองจำในคุก 1 ปี 6 เดือน

          กระทั่งเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2557 นายสับ วาปี ชาว ต.กุดแข้ อ.เมือง จ.มุกดาหาร ได้รับสารภาพว่าหลังเข้าพบกับพนักงานสอบสวน สภ.นาโดน ว่าตนขับรถกระบะอีซูซุ สีเขียว รุ่นเคบีแซด ทะเบียน บค 56 มุกดาหาร ขับรถชนนายเหลือตาย หลังนางจอมทรัพย์พ้นโทษออกมา จึงเข้าร้องที่ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ศาลรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ดังกล่าว

          โดยศาลจังหวัดนครพนม นัดอ่านคำพิพากษา คดีครูจอมทรัพย์ ถูกกล่าวหาขับรถชนคนตาย วันศุกร์ที่ 17 พ.ย.60 เวลา 13.00 น. ที่ศาลจังหวัดนครพนม จ.นครพนม 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ