รวบหนุ่มขี่ จยย.กระตุกสร้อย ก่อเหตุโชกโชน!

               เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 19 ตุลาคม 2560 พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. พ.ต.อ.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ รรท.ผบก.น.2 พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ยรรยง สันติปรีชาวัฒน์ ผกก.สน.พหลโยธิน พ.ต.ต.ชลากร ปานแดง พ.ต.ต.เอกราช โอมาก สว.สส.และฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน ร่วมกันแถลงจับกุม นายธีรพลหรือบีม ชื่นสำราญ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 2099/2560 ลงวันที่ 11 ก.ย.60 ในฐานความผิดข้อหา ชิงทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุมเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ พร้อมของกลาง รถจยย.ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีเทา ทะเบียน 1กช1821 กรุงเทพมหานคร และหมวกกันน็อคครึ่งใบสีแดง  จำนวน 1 ใบ
               พล.ต.ต.สมพงษ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจ สน.พหลโยธิน ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายขับขี่รถจยย.ชิงสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 50 สตางค์ บริเวณปากซอยลาดพร้าว 23 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ต่อมาทางฝ่ายสืบสวนจึงได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าจนทราบว่านายธีรพล เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ โดยสวมหมวกกันน็อคครึ่งใบสีแดง ขับขี่รถจยย.ตามขี่ประกบเหยื่อและกระชากสร้อยคอขับหลบหนีไป ตำรวจจึงเร่งดำเนินการติดตามตัวได้ขณะหลบหนีไปที่บ้านญาติใน จ.นครสวรรค์
               จากการสอบสวนนายธีรพล ให้การรับสารภาพว่า ปัจจุบันไม่ได้ประกอบอาชีพใด โดยเริ่มก่อเหตุมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งจะตระเวนขับขี่รถจยย.หาเหยื่อในซอยย่านลาดพร้าว พหลโยธิน แจ้งวัฒนะ เนื่องจากมีคนทำงานและอาศัยอยู่เยอะ โดยจะเลือกเหยื่อที่ขับขี่รถจยย.มาคนเดียว และสวมใส่สร้อยคอทองคำที่เห็นชัด หลังก่อเหตุก็จะนำทองไปขายตามร้านทองทั่วไปและนำเงินที่ได้ไปซื้อเฮโรอีนมาเสพและใช้เที่ยวเตร่
               ด้าน นางกนกวรรณ กล้าถิ่นพลู อายุ 49 ปี อาชีพแม่บ้าน หนึ่งในผู้เสียหาย ให้การว่า เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 30 ส.ค. ขณะที่ขับจยย.กลับจากไปทานข้าว และกลับที่ทำงาน จากกลางซอยลาดพร้าว 23 เมื่อใกล้ถึงปากซอย มีคนร้ายขับจยย.มากระชากสร้อยคอทองคำหนัก 50 ส.ต. จากด้านหลัง จนทำให้รถล้มได้รับบาดเจ็บ มีแผลถลอกที่ขาซ้ายและตามร่างกาย ทำให้ต้องหยุดงานไปหนึ่งเดือน เพื่อพักฟื้นร่างกาย เมื่อรู้ว่าจับคนร้ายได้จึงเดินทางมาดูตัวผู้ต้องหา ดีใจมากที่ตำรวจจับคนร้ายได้ จะได้ไม่ไปก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นอีก
               ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายธีรพลเคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาแล้วหลายครั้ง ในท้องที่ สน.พหลโยธิน 6 ครั้ง สน.โคกคราม 2 ครั้ง สน.ดอนเมือง 3 ครั้ง สน.โชคชัย 2 ครั้งและสน.ทุ่งสองห้อง 2 ครั้ง และจากการตรวจสอบประวัติพบว่าไม่เคยถูกจับกุมในคดีมาก่อน หากมีผู้เสียหายรายใดเคยถูกก่อเหตุลักษณะนี้สามารถเดินทางมาชี้ตัวได้ที่ สน.พหลโยธิน