เสี่ยร้านทองพัทยาชกเฒ่าออสเตรเลียต่อหน้าตำรวจ-เด็กนักเรียนนับร้อย อ้างขับรถไปเฉี่ยวชนถูกมีดไล่ฟัน ลั่นสะใจเอาคืนพยายามฆ่า
11 ต.ค. 60 เมื่อเวลา 15.00 น. ขณะที่ผู้สื่อข่าวเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ไปรับบุตรที่โรงเรียน พบ นายสุเมธ รุ่งรัตนพันธุ์ อายุ 28 ปี เจ้าของห้างทอง 99 ย่านตลาดวัดชัยมงคล กำลังยืนอยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองพัทยา จึงเข้าไปตรวจสอบ ทราบว่านายสุเมธได้แจ้งตำรวจให้มาช่วยตามหาชายชาวต่างชาติคู่กรณี ภายหลังจากเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนและชาวต่างชาติได้ใช้มีดอีโต้ไล่ทำร้ายร่างกายและทำลายทรัพย์สินจนได้รับความเสียหาย ก่อนที่จะขับหนีเข้ามาในโรงเรียน
นายสุเมธ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขณะขับรถยนต์เก๋ง ฮอนด้า บริโอ สีขาว ทะเบียน กย 4422 ชลบุรี ออกไปทำธุระนอกร้าน จนมาถึงปากซอยกอไผ่ เห็นชายชาวต่างชาติขับรถยนต์เก๋ง นิสสัน เอ็นวี สีบรอนซ์ ทะเบียน บห 1152 ชลบุรี อยู่ข้างหน้าและเปิดไฟเลี้ยวขวา ตนเลยขับแซงซ้ายทำให้รถเบียดกันเล็กน้อย แต่แทนที่จะเจรจาพูดคุยกันดีๆ ปรากฏว่าชายต่างชาติได้ลดกระจกรถลงแล้วตะโกนด่าให้ของลับพร้อมกับท้าทายให้ลงมาจากรถ พอตนลงไปชายคนดังกล่าวได้เปิดฝาท้ายรถเก๋งของตัวเอง แล้วหยิบอาวุธมีดอีโต้ยาวเกือบ 1 เมตร ออกมาไล่ฟันที่แขนซ้ายและแขนขวาจนเลือดออกได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ตนเลยรีบวิ่งหนีตายอย่างไม่คิดชีวิต จากนั้นชายต่างชาติจึงหันมาใช้มีดฟ้นที่รถของตนจนกระจกหลังและกระจกประตูรถทั้งสองด้านแตกได้รับความเสียหาย ก่อนเดินไปขึ้นรถแล้วขับรถหลบหนี ตนจึงรีบขับรถไล่ตามจนเห็นรถของคู่กรณีขับเข้ามาในโรงเรียน เลยโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยตามหาดังกล่าว
ต่อมาทั้งตำรวจและนายสุเมธได้เดินตามหาจนไปพบรถของคู่กรณีจอดอยู่ด้านใน สภาพกระจกหน้าแตก ส่วนเจ้าของรถทราบชื่อภายหลัง นายเจอร์ราร์จ โคลินส์ อายุ 72 ปี สัญชาติออสเตรเลีย ยืนรอรับบุตรอยู่ใกล้ๆ รถ แต่ในระหว่างที่ตำรวจกำลังสอบถามข้อมูลอยู่นั้น นายสุเมธกับภรรยาที่ตามมาดูเหตุการณ์และอุ้มลูกน้อยวัยขวบเศษพร้อมกับถ่ายคลิปวิดีโอ ได้เดินเข้ามาคุยกับนายเจอร์ราร์จเป็นภาษาอังกฤษ ทำให้เกิดการโต้เถียงกันจนนายสุเมธระงับอารมณ์ไว้ไม่อยู่ ปรี่เข้ามาชกนายเจอร์ราร์จจนล้มทั้งยืนหลับกลางอากาศเลือดกำเดาไหลอาบร่าง ท่ามกลางสายตาของเด็กนักเรียนและผู้ปกครองที่ไปรับบุตรหลานหลายร้อยคน จนพากันแตกตื่นวิ่งมาดูเหตุการณ์ โดยมีบุตรสาวลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย วัย 8 ขวบ ที่เห็นเหตุการณ์ วิ่งเข้ามาประคองบิดาและร้องไห้จ้าด้วยความตื่นตกใจ ตำรวจจึงประสานมูลนิธิให้มาปฐมพยาบาลเบื้องต้นจนฟื้นคืนสติ ก่อนให้การเป็นภาษาอังกฤษผ่านบุตรสาวที่ช่วยแปล อ้างว่า หลังเกิดเหตุรถเฉี่ยวชนกัน นายสุเมธได้ลงจากรถตรงเข้ามาจะทำร้ายร่างกาย เลยรีบคว้ามีดอีโต้ที่อยู่ในรถออกมาป้องกันตัว ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายนายสุเมธแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทาง ร.ต.อ.นครราช นนสีลาด รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา เจ้าของคดี ได้ให้ทั้งสองฝ่ายไปทำแผลที่โรงพยาบาลและขอใบรับรองแพทย์มาเป็นหลักฐาน โดยยังไม่ได้แจ้งข้อหาใดๆ กับทั้งสองฝ่าย เพราะคงต้องรอสอบปากคำพยานแวดล้อมและตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการทำสำนวนส่งให้อัยการพิจารณาอีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง