ตร.รวบแล้ว 3 วัยรุ่นรุมยิงโจ๋ 17 ปี เสียชีวิต อ้างควบ จยย.มาเจอโดยบังเอิญแล้วเกิดเขม่น “ศานิตย์” รุดแถลงข่าวแจ้งข้อหาหนัก จี้ ล่าตัวอีกรายยังหลบหนี
11 ก.ย. 60 จากกรณีตำรวจ สน.ลาดพร้าว รับแจ้งเหตุ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิตที่บริเวณปากซอยนวมินทร์ 68 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ สน.ลาดพร้าว พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.อ.ภาสกร รัตนปนัดดา ผกก.สน.ลาดพร้าว พ.ต.ท.ธีรยุทธ ใหม่แปง รอง ผกก.สส.สน.ลาดพร้าว พ.ต.ท.ไอยรา อากาศวิภาค สว.สส.สน.ลาดพร้าว พ.ต.ต.พนม ฟองแก้ว สว.สส.สน.ลาดพร้าว ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ลาดพร้าว
ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายสิทธิเดช หรือ เมฆ เลี้ยงสำอางค์ อายุ 20 ปี นายบี (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นายกิตติภูมิ หรือ ภูมิ เต๋จ๊ะ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2079 - 2081/2560 ลงวันที่ 6 กันยายน 2560 พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อ ซีแซด สีดำ รุ่น 75 ดี คอมแพ็ค ขนาด 9 มม. 1 กระบอก อาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. 25 นัด เครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 20 จำนวน 1 นัด รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 2 คัน เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ โดยจับกุมนายบีได้ที่ห้องพัก แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน ส่วนนายกิตติภูมิและนายสิทธิเดช จับกุมได้ที่ห้องพัก แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม
พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 1 กันยายน นายเอ ผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์มากับแฟนสาวบริเวณหน้า นวมินทร์ 111 และเจอกับนายบีพร้อมพวกอีก 3 คน จากนั้นก็มีการมองหน้ากัน ฝั่งคนร้ายได้ยิงปืนขู่ไล่และลูกกระสุนได้ไปโดนล้อรถจักรยานยนต์ของนายเอ จากนั้นนายเอได้ขี่รถหลบหนีไป กระทั่งขี่ไปยังบริเวณที่กลับรถนวมินทร์ 68 และพบเจอกับกลุ่มคนร้ายอีกครั้ง กลุ่มคนร้ายจึงได้ใช้อาวุธปืน 3 กระบอก รุมยิงใส่กลุ่มผู้ตายหลายนัด นายเอล้มลงและพยายามวิ่งหลบหนี แต่ถูกยิงบริเวณหน้าอก 1 นัด เป็นเหตุให้นายเอเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ไม่ได้เรียนหนังสือและประกอบอาชีพใดๆ และการก่อเหตุดังกล่าวไม่เกี่ยวกับสถาบัน โดยก่อนหน้านี้กลุ่มผู้ต้องหาไปมีเรื่องกับวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ก่อนจะเลิกลากันไป จากนั้นทางกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 4 คนได้ออกตามล่ากลุ่มที่มีเรื่องด้วย ก่อนจะไปเจอกลุ่มผู้ตายขณะขับขี่รถอยู่บริเวณปากซอยนวมินทร์ 68 ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย ได้ขับขี่รถ จยย.ผ่านมา และเกิดมองหน้ามีปากเสียงกัน ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงติดตามตัวคนร้ายที่หลบหนีอยู่อีก 1 ราย
จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายบีเคยมีประวัติในพื้นที่ สน.โคกคราม เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2555 ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น ในพื้นที่ สน.คันนายาว เมื่อเดือนเมษายน ปี 2558 ข้อหาครอบครองอาวุธปืนฯ เดือนมิถุนายนและตุลาคม ปี 2558 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และอยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวกลางจังหวัดมีนบุรี ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ
ส่วนนายสิทธิเดช เคยมีประวัติในข้อหาครอบครองอาวุธปืน เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2557 ในพื้นที่ สน.สายไหม คดีฆ่าผู้อื่น เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2558 ในพื้นที่ สน.ลาดพร้าว และอยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ข้อหาพกพาอาวุธปืนฯ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น พยายามฆ่าผู้อื่น ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามตัวนายศรัณย์ มหาศิริ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2082/2560 ลงวันที่ 6 กันยายน 2560 ในข้อหาเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางมารดาของนายเอ อายุ 41 ปี พร้อมญาติ ได้มาขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง