ร้อง ตร. หลานชายทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ ตร.เตรียมออกหมายเรียก รอผลตรวจร่างกาย ‘อาม่า’ ก่อนแจ้งข้อหา
7 ก.ย. 60 เมื่อเวลา 07.35 น. นางสมศรี หรือ อาม่า อุ่นสกุลสุข อายุ 66 ปี พร้อมด้วย น.ส.มาลี ทิก่ำ อายุ 59 ปี ร่วมกันเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.กิตติชัย เหตุทอง รอง สว.(สอบสวน) สน.ท่าเรือ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ภายหลังถูกชายฉกรรจ์ทำร้ายร่ายกายจนได้รับบาดเจ็บ
น.ส.มาลี กล่าวว่า ตนประกอบอาชีพเป็นพนักงานตรวจตั๋วเรือข้ามฟากมานานกว่า 20 ปี ส่วนนางสมศรีเป็นเจ้าของท่าเรือและเป็นผู้เก็บค่าโดยสาร โดยท่าเรือข้ามฟากแห่งนี้มีค่าบริการท่านละ 5 บาท ซึ่งตนได้รับเงินส่วนแบ่ง 4 บาท เนื่องจากเป็นเจ้าของเรือ ส่วนอาม่านั้นได้เพียง 1 บาท โดยเวลา 06.00 น. ของทุกวัน ตนและอาม่าจะเดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ซึ่งก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 06.30 น. ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังตรวจตั๋วผู้โดยสารอยู่นั้นพบ นายวิทยา หรือ ตุ้ย ดวงดี อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นหลานของสามีได้เดินทางมาพร้อมเพื่อนชายอีก 2 ราย เพื่อจะข้ามฟากกลับบ้านพักภายในชุมชนบางกะเจ้า หมู่ 2 อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ระหว่างนั้นตนได้เดินเข้าไปเพื่อขอเรียกตรวจตั๋วจากเพื่อนของนายวิทยา ส่วนหลานชายนั้นโดยปกติก็ข้ามฟากฟรีอยู่แล้ว เพราะเป็นเครือญาติกัน แต่จู่ๆ นายวิทยากลับพูดจาโวยวายขึ้นมาว่า “มึงจะเก็บตังค์เพื่อนกูเหรอ เงินแค่ 5 บาท งั้นมึงเอาไปเลย 1 พัน” ด้วยความตกใจจึงหันหลังหนีเพราะไม่อยากมีปากเสียง อีกทั้งหลานชายคล้ายมีอาการมึนเมา แต่กลับถูกหลานชายปาขวดน้ำดื่มพลาสติกที่ดื่มเหลือครึ่งขวดเข้าที่กลางหลังอย่างจัง ตนเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเดินไปหาอาม่าที่บริเวณโต๊ะเก็บเงิน
น.ส.มาลี กล่าวต่อว่า จากนั้นหลานชายยังเดินตามตนมาแบบกระชั้นชิด ซึ่งระหว่างนั้นอาม่าเห็นท่าไม่ดีจึงพูดห้ามปรามว่าอย่ามีเรื่องกันตรงนี้ เพราะเป็นสถานที่ทำมาหากิน แต่จู่ๆ นายวิทยากลับปรี่เข้าไปหาอาม่าพร้อมทั้งกระหน่ำต่อยเข้าที่ใบหน้าอย่างจังจนเป้าตาซ้ายเขียวช้ำและมีร่องรอยขีดข่วนตามร่างกาย เมื่อหลานชายทำร้ายร่างกายอาม่าจนหนำใจ ได้บังคับให้คนขับเรือพาไปส่งข้ามฟากพร้อมเพื่อนอีก 2 คน ส่วนตนเห็นอาการอาม่าไม่ดีนักจึงพากันมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานก่อนพาไปรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 1 ทั้งนี้ ตนไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับหลานชายมาก่อน แต่ที่ก่อเหตุนั้นก็ไม่ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าเพราะอะไร
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยหลังจากนี้จะออกหมายเรียกคู่กรณี 2 ครั้ง เพื่อมาทำการสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อสรุปหาสาเหตุที่แท้จริง หากไม่มาพบตามนัดก็จะดำเนินการออกหมายจับ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถแจ้งข้อหาได้เนื่องจากต้องรอผลการตรวจร่างกายจากทางแพทย์ก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง