ข่าว

‘สร้อยเพ็ชร’ พบ ป.ไม่รู้เห็นสวมชื่อหลอกแต่งงาน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

‘สร้อยเพ็ชร’ พบกองปราบฯ อ้างไม่มีส่วนรู้เห็น ถูกใช้ชื่อเปิดบัญชี-แอบอ้างตัวหลอกหนุ่มแต่งงาน ตร.ตามรวบแล้ว ‘จริยาภรณ์’ ขณะกำลังหลบหนีพร้อมสามีคนปัจจุบัน


               7 ก.ย. 60  ความคืบหน้ากรณีทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทําลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้พาผู้เสียหาย 12 ราย เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดี น.ส.จริยาภรณ์ บัวใหญ่ อายุ 32 ปี ชาว จ.เลย ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง ภายหลังหลอกลวงผู้เสียหายที่รู้จักกันผ่านทางเฟซบุ๊ก จากนั้นก็จะพูดคุยตีสนิทในเชิงชู้สาว จนมีความสัมพันธ์ต่อกัน ก่อนจะชักชวนลงทุนธุรกิจขายผลไม้ รวมทั้งอ้างว่ากำลังตั้งครรภ์และจะขอให้จัดงานแต่งงาน แต่กลับเชิดเงินสินสอดจากผู้เสียหายแล้วหลบหนีไปรายละนับแสนบาท จนผู้เสียหายต้องเป็นหนี้ได้รับความเดือดร้อนนั้น ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ ได้ทำการประสานเชิญตัว น.ส.สร้อยเพ็ชร พาลีวัลย์ อายุ 27 ปี ชาว จ.เลย ที่ น.ส.จริยาภรณ์ นำชื่อไปใช้ในการเปิดบัญชีธนาคาร และแอบอ้างตัวกับผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้แต่งงานด้วย รวมถึง นายบุญเลี้ยง บัวใหญ่ และนางสำโรง บัวใหญ่ พ่อและแม่ของ น.ส.จริยาภรณ์ มาเข้าพบเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง

               ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)  พ.ต.อ.สุวัฒน์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวน กก.2 และ กก.5 บก.ป. ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่เกิดเหตุ สอบปากคำผู้เสียหาย และเร่งสอบสวนข้อเท็จจริง รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ แต่เนื่องจากผู้เสียหายได้แจ้งความกับตำรวจท้องที่ไว้แล้ว หลังจากนี้ก็จะมีการประสานข้อมูลกับพนักงานสอบสวนท้องที่ ส่วนกรณีที่น่าจะยังมีผู้ร่วมกระทำความผิดด้วยนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยเร่งรัดสั่งการไปยังพนักงานสอบสวน กก.2 และ กก.5 บก.ป. แล้ว

 

‘สร้อยเพ็ชร’ พบ ป.ไม่รู้เห็นสวมชื่อหลอกแต่งงาน

 

               รายงานข่าวแจ้งว่า ในส่วนของการติดตามจับกุมตัว น.ส.จริยาภรณ์ นั้น เบื้องต้นจากข้อมูลหลักฐานที่ได้รับในขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยังเชื่อว่า น.ส.จริยาภรณ์ ยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ภายในประเทศ เนื่องจากไม่พบความเคลื่อนไหวหรือข้อมูลการเดินทางออกนอกประเทศในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงสืบทราบเบาะแสสำคัญบางอย่างเกี่ยวกับสถานที่กบดานซ่อนตัว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบให้แน่ชัด และเชื่อว่าน่าจะสามารถติดตามจับกุมตัว น.ส.จริยาภรณ์ ได้ภายในเร็ววันนี้

               ต่อมา เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ บก.ป.  น.ส.สร้อยเพ็ชร พร้อมด้วยแฟนหนุ่ม ได้เดินทางมาติดต่อเข้าพบ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก. 2 บก.ป. และ ร.ต.อ.ศรสุพรรณ อดทนศรีอนันต์ รอง สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ป. เพื่อเข้าให้ปากคำเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว

 

 

               โดย น.ส.สร้อยเพ็ชร กล่าวว่า สำหรับการเดินทางมาเข้าพบเจ้าหน้าที่ในวันนี้ เนื่องจากได้ทราบข่าวว่าตนมีชื่อไปพัวพันกับคดีที่ น.ส.จริยาภรณ์ หลอกลวงผู้เสียหายแต่งงานแล้วเชิดเงินค่าสินสอดหลบหนี ซึ่งทันทีที่ทราบข่าวก็ค่อนข้างตกใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากตนไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำของ น.ส.จริยาภรณ์ แต่อย่างใด แต่ยอมรับว่ารู้จักกับ น.ส.จริยาภรณ์ เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว เนื่องจากมีศักดิ์เป็นญาติกัน ส่วนกรณีที่ชื่อบัญชีธนาคารที่ น.ส.จริยาภรณ์ ให้ผู้เสียหายโอนเงินให้ตรงกับชื่อของตนนั้น ในส่วนนี้ตนเองก็ไม่ทราบเรื่อง และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีเงินจากบุคคลแปลกหน้าโอนเข้ามาให้ในบัญชีธนาคารของตน อย่างไรก็ตาม อาจเป็นไปได้ว่า น.ส.จริยาภรณ์ อาจจะเคยนำบัตรประชาชนของตนไปใช้ในการเปิดบัญชีธนาคารขึ้นมาใหม่ หรือทำธุรกรรมทางการเงิน เนื่องจากเมื่อหลายปีก่อน น.ส.จริยาภรณ์ เคยมาขอยืมบัตรประชาชนของตนไปใช้ในการสมัครงานแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยอ้างว่าตัวเองมีอายุเกินกำหนดที่จะสมัครงาน จึงจำเป็นต้องใช้บัตรประชาชนของตนในการสมัครงานแทน ซึ่งครั้งนั้นตนก็ไม่ได้เอะใจ เนื่องจากเห็นว่าเป็นญาติพี่น้องกัน ต่อมาตนได้ทวงถามขอคืนบัตรประชาชน แต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยง ตนจึงตัดสินใจไปทำบัตรประชาชนใหม่ จนกระทั่งเกิดเรื่องจึงได้เข้ามาแสดงความบริสุทธิ์ใจกับทางเจ้าหน้าที่และไม่คิดว่าญาติพี่น้องกันจะทำกันแบบนี้

               เบื้องต้น พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. ได้ทำการสอบปากคำ น.ส.สร้อยเพ็ชร อย่างละเอียดเพื่อนำไปใช้ประกอบสำนวนคดี

 

 

               ล่าสุดมีรายงานว่า เมื่อเวลา 20.00 น. ชุดสืบสวนของ กก.1 บก.ป. จับกุมตัว น.ส.จริยาภรณ์ ได้ที่ ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม ขณะกำลังหลบหนี โดยสามารถจับได้พร้อมกับสามีคนปัจจุบัน ทั้งนี้ เป็นการจับกุมตามหมายจับคดีค้างเก่าที่ผู้ต้องหาได้ฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์ไว้จนถูกออกหมายจับรวม 5 หมายจับ ในพื้นที่ 5 จังหวัด ก่อนที่จะมาหลอกลวงผู้ชายไปแต่งงานเพื่อเชิดสินสอดในครั้งนี้ โดยขณะนี้กำลังนำตัวเข้าไปสอบสวนที่กองปราบปราม โดยจะมีการแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ 8 กันยายน เวลา 11.00 น.

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ