บุกจับ!บ่อดินไม่มีใบอนุญาต

 

          23 ส.ค.60 พันเอกชินโชติ บุญยไพศาลเจริญ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร จังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย เข้าตรวจสอบการลักลอบขุดบ่อดิน จำนวน 98 ไร่ ที่สร้างปัญหาให้กับชาวบ้าน วัด และเด็กนักเรียนมาเนิ่นนาน ขณะที่เจ้าของบ่ออ้างถูกนายหน้าหลอกขายที่ ต้องสูญเงินไปกว่า 40 ล้านบาท และต้องทำกิจการทั้งๆที่ไม่รู้เรื่องธุรกิจนี้เลย

          ปัญหาการลักลอบขุดบ่อดินโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบการ และยังสร้างปัญหาให้กับชาวบ้าน วัดโรงเรียน และถนนได้รับความเสียหายกว่า 3 กิโลเมตร จนชาวบ้านทนไม่ไหวต้องร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดนครปฐมครั้งนี้ เกิดขึ้นที่ หมู่ 8 ตำบลนราภิรมย์ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม

 

 

          พันเอกชินโชติ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร จังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย ร้อย.รส.ม.พัน.19 พล.ร.9 ร่วมกับ นายยุทธพล สิทธิพรหม ปลัดศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบางเลน พันตำรวจเอกวชิระ ลภเลิศ ผู้กำกับ สภ.บางเลน ผู้แทนสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐม ผู้แทนสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครปฐม ผู้แทน สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครปฐม นายสยาม แจ่มกระจ่าง นายก อบต.นราภิรมย์ นายสรวิทย์ รัตนภิรมย์ กำนัน ตำบลนราภิรมย์ ได้ร่วมกันลงไปตรวจสอบในพื้นที่ดังกล่าว โดยมีนายศรายุทธ สมาเต๊ะ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/3 หมู่ 6 ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี ผู้จัดการดูแลบ่อดินนำตรวจสภาพบ่อดิน จำนวน 98 ไร่ (เนื้อที่รวม 120 ไร่)

          ในที่ดินดังกล่าวพบมีการเปิดหน้าดินและตักขายไปแล้วจำนวนมาก สำหรับเจ้าของผู้ครอบครองพื้นที่ดังกล่าวคือนางอติมา สมาเต๊ะ อยู่หมู่ที่ 8 ตำบลนราภิรมย์ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นภรรยาของนายศรายุทธ ซึ่งไม่มีใบอนุญาตประกอบการขุดดิน และยังเคยถูก อบต.นราภิรมย์ ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดี ร่วมกันกระทำผิดอาญาฐาน “ร่วมกันทำการขุดดินโดยไม่ได้รับใบแจ้งการขุดดินจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น และได้รับคำสั่งจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นให้หยุดการขุดดินแล้วไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้น”

 

 

          เจ้าหน้าที่ได้ทำการเปรียบเทียบปรับ ตามในมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ.2543 ผลการปฏิบัติจึงสั่งให้เจ้าของกิจการบ่อดินหยุดทำการประกอบกิจการจนกว่าจะได้รับอนุญาติให้ทำการประกอบกิจการเป็นที่เรียบร้อย และ อบต.นราภิรมย์ ดำเนินการเปรียบเทียบปรับผู้ประกอบการ และประสานทางหลวงชนบทเพื่อทำการซ่อมแซมถนนที่ชำรุดดังกล่าวให้แล้วเสร็จ 

          ทั้งนี้ นายศรายุทธ กล่าวว่า ตนเองประกอบกิจการด้านฟอกหนังสัตว์ และไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับการทำกิจการขุดดินเลย แต่โดนหลอกให้ซื้อที่ดินจำนวน 120 ไร่ ในราคากว่า 40 ล้านบาท รวมทั้งไม่ทราบขั้นตอนการปฏิบัติการทำธุรกิจตักดินขายอีกด้วย แต่ก็จะหยุดทำกิจการชั่วคราว และจะทำเรื่องให้ถูกต้องก่อนที่จะดำเนินการอีกครั้ง