ปิดล้อม4จุดปัตตานี

 

          23 ส.ค.2560 ที่บ้านแบรอจะรัง ม.2 ต.ตะลูโป๊ะ อ.เมือง จ.ปัตตานี ครอบครัวนายนูรฮาซัน อาแว ที่ถูกวิสามัญในคดีปล้นเต็นท์รถยนต์มือสอง อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อวันที่ 16 ส.ค.2560 ที่ผ่านมา ทำบุญครบ 7 วัน โดยมีผู้นำศาสนาและประชาชนมาร่วมรับประทานอาหาร และอ่านคิมภีร์อัลกูรอ่านให้กับผู้เสียชีวิตกว่า 200 คน ซึ่งครอบครัวของนูรฮาซัน มีอาการดีและขึ้นคลายความกังวลได้บ้างแต่ไม่ยอมพูดกับผู้สื่อข่าวถึงเรื่องนี้ เพียงแต่บอกสั้นๆว่า "ทุกคนหนีความตายไม่พ้น จะตายเร็วหรือตายช้า และไม่มีใครรู้จะตายเมื่อไหร่"

          ต่อมาเวลา 15.00 น.วันเดียวกัน พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี สนธิกำลังทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครรักษาดินแดนกว่า 60 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้านรวม 4 จุด

          ประกอบด้วย 1.บ้านจือแรบองอ ม.1 2.บ้านพัก ผอ.ศูนย์ตาดีกา บ้านแบรอจะรัง และอุสตาสโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม 3.บ้านผู้นำศาสนาและศูนย์ตาดีกาจำนวน 3 จุด 4.บ้านแบรอจะรัง ม.2 ซึ่งทั้ง 4 จุดที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นในครั้งนี้ เป็นพื้นที่เป้าหมายเนื่องจากผู้นำส่วนใหญ่ในพื้นที่ดังกล่าวมีความสนิทสนมกับนายนูรฮาซัน อาแว

          ผลจากการตรวจค้นบ้านพักของครูใหญ่ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของนายนูรฮาซัน เพียง 50 เมตร โดยนำโต๊ะอิหม่ามในพื้นที่มาเป็นพยาน ในการเข้าตรวจค้น

          เจ้าหน้าที่ได้ยึดหลักฐานไปตรวจสอบ ประกอบด้วย ตราประทับของโรงเรียน เอกสารบางส่วน คอมพิวเตอร์ และสมุดธนาคารกรุงไทยสาขาปัตตานี ทำการยึดตรวจสอบ พร้อมทั้งได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นครูใหญ่ และเพื่อนบ้านรวม 4 คน เพื่อเข้าศูนย์ซักถามที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

          พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี เปิดเผยว่า ทำไมผู้เสียชีวิตถึงก่อเหตุ ซึ่งจากการสอบถามทั้งครอบครัว และคนใกล้ชิด ทราบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นคนดี เคร่งศาสนา ตั้งใจทำงาน เป็นที่ยอมรับในหมู่บ้าน บางคนให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ทราบว่าสาเหตุคือมีแรงจูงใจจากความเชื่อผิดๆ และถูกจ้างวานจากคนที่อยู่แวดล้อมบางคน รวมถึงผู้ที่ควบคุมตัววันนี้ ซึ่งเป็นครูใหญ่ มีการประชุม มีการประสานงานกับผู้เสียชีวิต คาดว่าน่าจะจ้างวานไปก่อเหตุ ซึ่งเขายังให้การภาคเสธ ก็ต้องใช้กฎอัยการศึกเชิญตัวไปให้ข้อมูลข้อเท็จจริง ถ้าไม่เกี่ยวข้องก็ต้องปล่อยตัวไป และจากผลการปฏิบัติการไล่ล่ากลุ่มคนร้ายในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวตามกฏอัยการศึกมาแล้ว 4 คน และเชิญตัว 6 คน (ปล่อยตัว 2 เหลือ 4 คน)

          “จากการซักถามให้ข้อมูลที่เป้นประโยชน์สามารถขยายผลได้ แต่บางคนยังให้การภาคเสธว่ามีส่วนร่วม บางคนยอมรับว่ามีส่วนรู้เห็น ส่วนวันนี้ควบคุมได้อีก 4 คน รวมทั้งหมด 12 คน”

          พล.ต.จตุพร กล่าวต่อว่า นายมะกอซี แนปิแน และนางสาวแมะสง เจะแต บ้านเลขที่ 37/3 ม.6 ต.ยาบี อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายปล้นรถยนต์ที่บ้านบราโอ ม.1 ต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ในวันที่ 16 ส.ค.2560 ก่อนที่คนร้ายจะรถยนต์คันดังกล่าวไปปล้นที่เต็นท์รถยนต์มือสอง ที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ผลการสอบสวน โดยแยกการสอบสวน ปรากฏว่าให้การมีพิรุธน่าสงสัย ให้การวกวน จึงได้ควบคุมตัวเพื่อสอบสวนขยายผลและให้การเป็นประโยชน์มาก

          พลตรีจตุพร กล่าวอีกว่า คดีนี้เริ่มกระจ่างมากขึ้น ทำให้มีความมั่นใจในการต่อตามกลุ่มคนร้าย โดยแบ่งงานเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ปฏิบัติการปล้น กับกลุ่มที่สร้างแรงจูงใจให้ก่อเหตุ

          สำหรับกลุ่มปฏิบัติการปล้น แบ่งอีก 3 กลุ่ม คือ 1.ปล้นรถยนต์ที่อ.ยะรัง 2.ปล้นรถยนต์ที่เต็นท์รถมือสอง อ.นาทวี จ.สงขลา 3.กลุ่มประกอบระเบิด

          ซึ่งทั้ง 3 กลุ่ม มีภาระกิจที่แบ่งกัน โดยกลุ่มปฏิบัติการปล้นรถเป็นกลุ่มนายมาหามะ สะอิ และพวก ส่วนกลุ่มที่ประกอบระเบิดคือกลุ่มนายรอซาลี กับบูคอลี หลำโสะ โดยได้หลักฐานจากดีเอ็นเอในที่รถก่อเหตุจนสามารถออกหมายจับ

          ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างติดตามและค้นหาความจริงอยู่ว่ากลุ่มที่ประกอบระเบิดนำไปประกอบที่ไหน เคลื่อนย้ายอย่างไร เพื่อเป็นประโยชน์ต่อคดี และเป็นประโยชน์ในการที่เราจะต้องป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เกิดซ้ำอีก

          “การติดตามคนร้ายของเจ้าหน้าที่มีความมั่นใจมากขึ้น” ผบ.ฉก.ปัตตานี กล่าว