เบิกตัว“แก๊งฆ่าหั่นศพแอ๋ม”นัดวันไต่สวนนัดแรก

          23 ส.ค.60 เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดขอนแก่น ได้เบิกตัวผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งมี น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ “เปรี้ยว”  ,  น.ส.กวิตา ราชดา หรือ “เอิร์น” , น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือ “แจ้”  , และ นายวศิน นามพรหม หรือ “นิว” ร่วมกันลวงมาทำร้ายและลงมือสังหารก่อนอำพรางศพ รวมทั้ง น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ  หรือ “เบนซ์”  ร่วมกันฆ่า น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ “แอ๋ม”

          โดยในวันนี้ ศาลได้นัดทุกฝ่ายฝ่าย ซึ่งอัยการเจ้าของสำนวน ฝ่าโจทก์, จำเลย และ ทนายจำเลย เพื่อมาแถลงต่อศาลตามกระบวนการและขั้นตอนของศาลยุติธรรม ก่อนเข้าสู่กระบวนการของการสอบพยานโจทก์และจำเลย และการพิจารณาคดีพิพากษาในคดีดังกล่าว

          การต่อสู่คดีของทีมทนายความของฝ่ายจำเลย ได้มีการแบ่งทีมทนายเพื่อทำคดีให้กับผู้ต้องหาเป็นรายบุคคล โดยทนายหนึ่งคนต่อผู้ต้องหาหนึ่งคน เพื่อให้ง่ายต่อการทำคดี โดย น.ส.จิดารัตน์ หรือ เบนซ์ จำเลยที่ 3 มีนายธนัญชัย วงศ์ซ้าย เป็นทนายความ ซึ่งจะต่อสู้ในข้อหาข้อกล่าวหาร่วมกันลักทรัพย์ ส่วน น.ส.อภิวันทน์ หรือ “แจ้” จำเลยที่ 5 มีนายบุญยง แก้วฝายนอก เป็นทนายความ เบื้องต้น จะรับเฉพาะในข้อหาร่วมซ่อนเล้นอำพรางศพเท่านั้น เพราะ แจ้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการฆ่า ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นๆ ก็เป็นหน้าที่ของทนายแต่ละคน ซึ่งทั้งหมดจะเดินทางมาที่ศาล เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา เพื่อชี้แจงต่อศาลว่าจะรับทราบในข้อหาหรือไม่ ก่อนที่จะมีการกำหนดวันนัดพร้อม เพื่อนัดวันไต่สวนนัดแรกต่อไป

          ด้าน นายสมศักดิ์ สัตยบัณฑิต พ่อของ น.ส.อภิวันทน์ หรือ “แจ้”  กล่าวว่า ในวันนี้ตนยังไม่ทราบว่าศาลจะมีการพิจารณากับผู้ต้องหาทั้งหมดที่เบิกตัวมาตามขั้นตอนอย่างไร แต่ที่มาวันนี้ก็เพื่อมาให้กำลังใจลูกสาว ส่วนในเรื่องของคดีความขอให้เป็นหน้าที่ของทนายความ แต่หากจะถามความเห็นส่วนตัว ตนมองว่าลูกสาวถูกตั้งขอหาหนักเกินกว่าพฤติการณ์ที่ได้กระทำ คือ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ, ร่วมกันลักทรัพย์, ร่วมกันกักขังหน่วยเหนี่ยว และ ร่วมกันพาอาวุธไปในที่สาธารณะ โดย 5 ข้อกล่าวหาที่ตั้งกับ น.ส.เปรี้ยวนั้น น.ส.เอิร์น , น.ส.แจ้ และ นายวศิน ก็ได้ถูกตั้งข้อกล่าวหาเดียวกันเช่นกัน ส่วน น.ส.แจ้ ยังถูกตั้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมคือเสพสารเสพติด

          พ่อของ น.ส.อภิวันทน์ หรือ “แจ้” กล่าวด้วยว่า วันนี้ยังยืนยันว่าลูกสาวของตนไม่ได้มีส่วนร่วมในการฆ่า น.ส.วริศรา หรือ “แอ๋ม” ที่ลูกสาวเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีนี้เพราะแค่ไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนเท่านั้น ไม่เคยคิดว่าจะต้องไปฆ่าใครให้ตาย เพราะแจ้เองก็ไม่ได้มีเหตุโกรธเคืองกับผู้ตาย แต่เมื่อเกิดเรื่องแล้วตนคิดว่าลูกสาวคงลำบากใจที่จะหนีออกมา จึงจำใจต้องร่วมมือกับกลุ่มผู้ต้องหา จากการสอบถามลูกสาว ก็ยอมรับว่า แจ้ได้ช่วยขุดหลุมเพื่อใช้ในการฝังอำพรางศพผู้ตายจริง แต่ไม่ได้ร่วมวางแผนและหั่นศพ สังคมอาจมองว่า ถ้าไม่มีส่วนร่วมวางแผนตั้งแต่แรก ทำไมแจ้จึงไม่เข้ามอบตัว เรื่องนี้ตนเชื่อว่า ลูกสาวคงลำบากใจที่จะหนีออกมา เพราะอาจถูกกดดันจากบางอย่าง แต่ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ตนก็เคารพการพิจารณาของศาล