จับแล้ว!คนร้ายทำอนาจารเด็ก14

           จากกรณีที่ เด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ถูกคนร้ายเป็นชายหลอกให้ขึ้นรถจักรยานยนต์ หิ้วแกลลอนน้ำมัน อ้างจะไปซื้อน้ำมันรถ ให้ช่วยถือแกลลอนน้ำมัน แล้วพาเข้าถนนสายเปลี่ยว เป็นป่าด้านหลังวัดหนองโดน หมู่ 6 ต.หนองโดน อ.หนองโดน จ.สระบุรี ก่อนจะฉุดพยายามข่มขืนโดยใช้แม่ประแจปากตาย ดูแล้วคล้ายมีดขู่บังคับ แต่ ด.ญ.เอ ต่อสู้ดิ้นรน คนร้ายจึงเปลี่ยนใจให้อมเจ้าโลกแทน แล้วปล่อย ด.ญ.เอ ไป พอดีมีเจ้าหน้าที่ตำรวจขี่รถจักรยานยนต์มาพบจึงนำส่งบ้าน และเข้าแจ้งความ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา เวลา 17.30 น. 

           ต่อมาวันที่ 20 สิงหาคม เวลา 20.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองโดน สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ ทราบชื่อคือนายไวพจน์ ขันแก้ว อายุ 35 ปี ที่บ้านอยู่เลขที่ 20 หมู่ที่ 1 ต.หนองโดน อ.หนองโดน จ.สระบุรี พร้อมรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ ซูซูกิ สีแดง เบาะนั่งสีเหลือง ทะเบียน 1กฉ-6555 สระบุรี โดยนายไวพจน์ รับสารภาพโดยอ้างว่า วันเกิดเหตุขี่รถคันดังกล่าว ซึ่งเป็นรถของภรรยา ไปตามถนนสาธารณะหลังวัดหนองโดน หมู่ 9 ต.หนองโน อ.หนองโดน จ.สระบุรี เห็นเด็กหญิงคนดังกล่าวกำลังซื้อของอยู่ที่บริเวณร้านค้า ตนจึงออกอุบายชักชวนเด็กไปนั่งเล่นและจะพาไปส่งที่บ้าน เด็กจึงขึ้นรถไปกับตน

           จากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์พาเด็กหญิงไปบริเวณป่าด้านหลังวัดหนองโดน หมู่ที่ 6 ต.หนองโดน อ.หนองโดน จ.สระบุรี โดยตนได้จอดรถและเข้ากอดจูบเด็ก เด็กได้ขัดขืนและพยายามหลบหนี ตนจึงได้เปิดใต้เบาะรถจักรยานยนต์หยิบเอาประแจแหวนขึ้นมาขู่ว่าจะแทง เด็กตกใจกลัวจึงได้ยอม โดยตนได้จับเด็กถอดกางเกงออกและพยายามข่มขืน แต่อวัยวะเพศไม่แข็งตัว จึงให้เด็กใช้ปากอมอวัยวะเพศให้ จากนั้นตนจึงให้เด็กใส่เสื้อผ้า แล้วขี่รถจักรยานยนต์มาส่งหลังวัดหนองโดน แล้วตนจึงขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านตามปกติ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญมาที่ สภ.หนองโดน ตนจึงรับสารภาพในที่สุด

           โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยสาเหตุการก่อเหตุว่า นายไวพจน์อ้างว่าดื่มสุราแล้วเมา จากการตรวจสอบประวัติพบเคยติดคุกในข้อหาลักทรัพย์มา 4 ปี 9 เดือน เพิ่งออกจากเรือนจำ เมื่อ ปี 2559 และเคยต้องคดีเสพยาเสพติด ปัจจุบันมีอาชีพจำหน่ายพระเครื่อง วัตถุมงคลทั่วไป ครั้งนี้โดนข้อหา พรากผู้เยาว์และข่มขืนกระทำชำเรา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุอย่างเงียบๆ เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์รุมประชาฑัณณ์