8โชเฟอร์รถตู้ขนมวลชนเชียร์“ยิ่งลักษณ์”พบตร.ทุ่งสองห้อง

             
          สน.ทุ่งสองห้อง -  เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 ส.ค.2560 นายชนกันต์ พร้อมมูล อายุ 55 ปี นายกสมาคมรถตู้วีไอพี.ประเทศไทย พร้อมโชเฟอร์รถตู้ประจำทาง-ไม่ประจำทาง จำนวน 8 คน ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สุบรรณ์ อธิเศรษฐ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา กรณีเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการพาประชาชนจากต่างจังหวัด เพื่อมาให้กำลังใจนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีแถลงปิดคดีจำนำข้าว ที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
                 
          นายชนกันต์ กล่าวว่า วันนี้ตนและโชเฟอร์รถตู้ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา ข้อหา“วิ่งรถทับเส้นทาง ใช้รถโดยสารผิดประเภท” และ“ไม่มีใบอนุญาตประกอบการ” ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายเรียกทั้งหมด 21 ราย แบ่งเป็นรถประจำทาง19 คัน และไม่ประจำทาง 2 คัน โดยทั้งหมดมีเอกสารยืนยันถูกต้องตามกฎหมายทุกคัน แต่วันนี้เดินทางมาเพียงแค่ 8 คัน  ส่วนที่เหลือจะเดินทางมาในภายหลัง ทั้งนี้ขอยืนยันว่า โชเฟอร์รถตู้ทั้งหมด ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเมือง แต่ยอมรับว่าถูกจ้างให้มาส่งคนเท่านั้น ซึ่งจะปฏิเสธลูกค้าไม่ได้ จึงถือว่าเป็นการทำมาหากินโดยสุจริต
              
          ขณะที่ นายทวี สิงสาท อายุ 68 ปี เจ้าของรถตู้โดยสารไม่ประจำทาง เลขทะเบียน 300252 บุรีรัมย์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ได้มีลูกค้ามาจ้างรถให้มาส่งที่กรุงเทพฯ โดยบอกว่า จะมากราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และจะแวะเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ โดยได้ตกลงราคากันที่ 6,000 บาท และออกเดินทางในคืนวันที่ 31 ก.ค. ซึ่งมีผู้โดยสาร จำนวน 11 คน  หลังจากที่มาถึงกรุงเทพฯก็ได้ไปตามสถานที่ที่ตกลงกับลูกค้าไว้ จากนั้นจึงได้แวะมายังศาลฎีกา ซึ่งตนขอยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมือง ตนเป็นแค่คนทำมาหากิน ใครจ้างไปไหนก็ต้องไปแล้วแต่ลูกค้า โดยที่ตนมาในวันนี้เนื่องจากตนได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ว่า ให้มารับทราบ “ข้อใช้รถผิดประเภท” จึงได้นำเอกสารใบประกอบการรถโดยสารไม่ประจำทางมายื่นยันว่า รถของตนเองทำถูกต้องตามกฏหมายทุกอย่าง
                
          ด้าน พ.ต.ท.สุบรรณ์ กล่าวว่า วันนี้ได้ออกหมายเรียกโชเฟอร์รถตู้ทั้งประจำทาง และไม่ประจำทางจำนวน 21 คัน ให้มารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งวันนี้ได้เดินทางมาจำนวน 8 ราย ส่วนที่เหลือหากยังไม่มารับทราบข้อหา ก็จะออกหมายเรียกอีกเป็นครั้งที่ 2 โดยหากตรวจสอบเอกสารแล้วพบว่าถูกต้อง ก็จะไม่สามารถดำเนินคดีได้ แต่หากตรวจสอบพบว่า ไม่มีหลักฐานมาแสดงจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย 
                   
          พ.ต.ท.สุบรรณ์ กล่าวว่า ในส่วนของคดีการเสียชีวิตของนายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน จ.พังงา ผู้ต้องหาออกเอกสารสิทธิที่ดินทับซ้อนอุทยานแห่งชาติกว่าพันแปลง ที่เสียชีวิตภายในห้องควบคุมกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อวันที่ 30 ส.ค.2559 ที่ผ่านมา โดยมีการระบุว่า มีคนทำให้ตายนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างรอพนักงานอัยการส่งสำนวนคืน  หรือทางญาติติดใจสาเหตุการเสียชีวิต และเข้ามาร้องทุกข์ หลังจากนั้นจะเริ่มการสอบสวนใหม่บางส่วน  ซึ่งขณะนี้ทางญาติยังไม่ได้เดินทางเข้ามาร้องทุกข์