“หนุ่มเขมร” ถูกรุมมีดกระหน่ำฟัน บาดเจ็บสาหัส ตำรวจคาดเป็นคนงานเขมรคู่อริ
26 ก.ค.60 เมื่อเวลา 06.30 น. พ.ต.ท. อรรถรส ครองราชย์ พนักงานสอบสวน สภ. เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาท และใช้อาวุธมีดฟันกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณตลาดคลองถมริมทะเล ข้างโรงแรมฮาร์ดร็อค ถนนเลียบหาดพัทยา ม.9 พัทยากลาง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา
ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย อายุ ประมาณ 20-25 ปี อยู่ในสภาพนอนหงายจมกองเลือดกลางถนน มีบาดแผลถูกอาวุธมีดฟันที่ศีรษะ และขาทั้งสองข้างจนเป็นแผลฉกรรจ์ หายใจรวยริน เจ้าหน้าที่จึงต้องช่วยทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนรีบนำส่ง รพ.บางละมุง
ใกล้กันพบมีดทำครัว 1 เล่ม ไม้หน้า 2 ยาวประมาณ 1 เมตร ปลอกใส่มีดสปาร์ต้า เศษโต๊ะเก้าอี้ รองเท้าแตะตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบบริเวณร้านขายอาหารทะเลซีฟูดซ์ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ พบโต๊ะสุราวงใหญ่ บนโต๊ะยังมีเครื่องดื่มสุราที่ยังไม่ดื่มไม่หมด ขวดสุรา แก้ว ล้มแตกระเนระนาด บนโต๊ะยังพบกุญแจรถจักรยานยนต์ 1 พวง โทรศัพท์มือถือ1 เครื่อง และมีดทำครัวอีก 1 เล่ม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนชาวบ้านในที่เกิดเหตุให้การว่า เห็นผู้บาดเจ็บถูกไล่ทำร้ายร่างกาย แต่ไม่สามารถที่จะเข้าไปช่วยเหลือได้เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุมาด้วยกัน 4 คน โดยมีมีดเป็นอาวุธ ปรี่เข้าไล่ฟันผู้บาดเจ็บแต่ผู้บาดเจ็บนั้นก็พยายามต่อสู้โดยหาไม้ที่หาได้ต่อสู้สวนกลับแต่ผู้บาดเจ็บสู้ไม่ไหว เพราะอีกฝ่ายมากันจำนวน 4 คน โดยทั้งหมดได้ใช้อาวุธมีดเข้ากระหน่ำฟันร่างของผู้บาดเจ็บจำนวนหลายแผลจนนอนจมกองเลือด ก่อนที่ชาวบ้านจะตะโกนว่าตำรวจมา โดยหลังจากก่อเหตุแล้วผู้ก่อเหตุทั้ง 4 คน ต่างวิ่งหลบหนีเข้าไปในลานจอกรถแล้วขี่ จยย.หลบหนีไป
ภายหลังจากการตรวจสอบและสอบสวนในที่เกิดเหตุแล้วจึงถ่ายภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มคนงานชาวเขมรที่ทำงานร้านอาหารละแวกนี้โดยอาจพบกับผู้บาดเจ็บที่เคยเป็นอริกันมาก่อน หรืออาจจะเป็นเพื่อนกันแต่เกิดผิดใจกันในเรื่องบางอย่างจึงได้ก่อเหตุขึ้น ซึ่งจะได้ทำการสอบสวนผู้บาดเจ็บอีกครั้ง พร้อมทั้งจะได้ประสานชุดสืบสวนลงพื้นที่ที่เกิดเหตุหาเบาะแสติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และหากพบว่าเป็นกลุ่มแรงงานชาวเขมรและงานจ้างไม่ให้ความร่วมมือก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง