ช่วยชาวนาถูกหลอกร่วมทุนขายปุ๋ย

            21 ก.ค.60 ความคืบหน้ากรณีที่ชาวนาตำบลโคกล่าม อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ออกมาร้องขอความช่วยเหลือ หลังถูกนางยุพิน กาวไทสง อายุ 52 ปี ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา เข้ามาทำทีตีสนิทเมื่อช่วงปี 2558 จนตายใจต่อมาก็หลอกล่อให้นำโฉนดบ้านและที่นา ไปขายฝากกับนายทุน โดยอ้างว่าจะนำเงินไปลงทุนซื้อปุ๋ยมาขายแล้วจะแบ่งปันผลกำไรให้ โดยมีชาวนาใน ต.โคกล่าม โคกสะอาด และต.หนองคู อ.ลำปลายมาศ หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อรวม 6 ราย ที่ถูกหลอกนำโฉนดไปขายฝากกับนายทุนรายละตั้งแต่ 1 ล้าน ถึง 3.5 ล้านบาท รวมเนื้อที่ที่ถูกหลอกนำโฉนดไปขายฝากนายทุนกว่า 100 ไร่ รวมเป็นทั้งสิ้นกว่า 10 ล้านบาท

            ทั้งนี้ล่าสุดยังได้รับหนังสือจากสำนักกฎหมายแจ้งให้ผู้เสียหายทั้ง 6 รายทราบว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของนายทุนตามที่มีการทำนิติกรรมแล้ว ทั้งมีการนำป้ายมาติดประกาศขายที่ดินดังกล่าวด้วย

            ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน) จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลำปลายมาศ และฝ่ายปกครอง อ.ลำปลายมาศ ก็ได้ลงพื้นที่สอบถามข้อเท็จจริงกับชาวนาผู้เสียหาย เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ ซึ่งจากการลงพื้นที่ชาวนาทั้ง 6 รายให้ข้อมูลตรงกันว่าถูกนางยุพิน  หลอกนำโฉนดไปขายและขายฝากกับนายทุนจริง แต่จากการตรวจสอบเอกสารพบว่ามีการทำนิติกรรมการซื้อขายและขายฝากที่ดินที่สำนักงานที่ดินถูกต้อง ทำให้กรรมการสิทธิการถือครองที่ดินถูกเปลี่ยนมือไปตามกฎหมาย ส่วนความคืบหน้าที่ศาลได้ออกหมายจับนางยุพิน ที่ถูกกล่าวหาเป็นคนมาหลอกลวงชาวบ้านให้นำโฉนดไปขายนั้น ขณะนี้กำลังอยูระหว่างการติดตามตัวของเจ้าหน้าที่

            ด้านนายบรรทม เทพหลัว ปลัดอำเภองานศูนย์ดำรงธรรม อ.ลำปลายมาศ กล่าวว่า กรณีที่ชาวบ้านเกษตรกรถูกหลอกนำที่ดินไปขายและขายฝากนั้น ในส่วนของทางอำเภอก็ได้ดำเนินการช่วยเหลือเบื้องต้น โดยการให้เกษตรกรทั้ง 6 รายยื่นกู้เงินจากกองทุนหมุนเวียนตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน วงเงินไม่เกิน 3 แสนบาท ถึงสูงสุดไม่เกิน 2.5 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนชำระคืน 20 ปี เพื่อนำเงินไปขอซื้อที่ดินที่ถูกหลอกไปขายให้นายทุนคืน ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการอนุมัติ แต่มีบางรายที่ยอดเงินเกินจำนวนที่ให้กู้ ซึ่งก็จะได้เรียกทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยหาทางออกร่วมกันอีกครั้ง

            ส่วนกรณีโฉนดที่ดินได้ถูกเปลี่ยนกรรมการสิทธิการถือครองไปแล้ว หากเกษตรกรรายใดประสงค์จะให้ทำกินในที่ดินดังกล่าว ทางอำเภอก็พร้อมจะประสานพูดคุยกับเจ้าของกรรมสิทธิ์ว่าจะขอทำกินต่อหรือไม่อย่างไร เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน

            ด้านนางลาณี ทัดจะโป๊ะ อายุ 57 ปี หนึ่งในชาวนาที่ตกเป็นเหยื่อเล่าว่า หลังจากถูกนางยุพิน หลอกให้นำโฉนดที่นา 19 ไร่ 3 งาน ที่ทำกินอยู่ทุกวันนี้ไปขายฝากกับนายทุนจนจะถูกยึดที่นา ทั้งยังมีการติดป้ายประกาศขายด้วย ปีนี้จึงไม่กล้าเข้าไปทำนาในที่ดินของตัวเอง จึงอยากวิงวอนให้หาแนวทางช่วยเหลือด้วย เพราะไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร เพราะหากไม่ได้ทำนาก็ไม่รู้จะไปทำอะไรกิน