รวบแล้ว!แก๊งทวงหนี้โหดพังร้านลาบ-ตามสั่ง

 

           เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 20 ก.ค.60  ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรี รายงานความคืบหน้า จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟรชบุ๊คชื่อ "แหม่ม โพธิ์ดำ" ได้โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพ ว่ามีเจ้าของร้านอาหารขายลาบ-ตามสั่ง รวม 2 แห่ง ชื่อร้านเพ็ญเจริญอาหารตามสั่ง ตั้งอยู่ริมถนนสาย 304 (กบินทร์บุรี-นาดี) ตลาดบ้านโคกอุดม ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เจ้าของร้านได้ไปกู้เงินนอกระบบ รายละ 5,000 บาท โดยส่งหักเป็นรายวัน ๆ ละ 200 บาท แต่ล่าสุดขาดส่งเพียง 2 วันได้ถูกคนเก็บเงินกู้โทรศัพท์ข่มขู่ และขณะไม่อยู่ร้านได้มีคนบุกรุกมาทุบ รื้อค้นทำลายทรัพย์สินในร้านอาหารได้รับเสียหายพังยับเยิน จนมีการแชร์ผ่านเฟซบุ๊กและสื่อมวลชนนำเสนอตามรายละเอียดที่เสนอแล้วก่อนหน้านี้

           นายวัลลภ ประวัติวงศ์ นอภ.กบินทร์บุรี กล่าวว่า เรื่องเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ หรือเงินกู้หมวกกันน็อครายวัน ที่ได้มีการข่มขู่และทำลายทรัพย์สิน ของลูกหนี้ ซึ่งเจ้าของร้านอาหารที่ตลาดบ้านโคกอุดม ได้สั่งการให้กำนัน ต.หนองกี่ ตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไปว่าเป็นอย่างไร ทราบเพียงเบื้องต้นว่า  กลุ่มผู้เสียหายเป็นชาว จ.บุรีรัมย์ มาค้าขายลาบ-อาหารอิสานอาหารตามสั่งที่ อ.กบินทร์บุรี ภายหลังเงินขาดมือจึงกู้เงินนอกระบบมารายละ 5,000 บาท  ภายหลังขาดส่งไม่ตรงกำหนด จนมีการข่มขู่และทำลายร้านอาหาร จนผู้เสียหายนำไปเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์หรือเฟซบุ๊กดังกล่าว ทราบล่าสุดขณะนึ้ทางฝ่ายสืบสวนสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี กำลังเร่งติดตามคดีอยู่อย่างเร่งด่วนแล้ว

           ขณะที่ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ ชัยรักษา ผกก.สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนออกติดตามหาข่าวผู้ต้องสงสัยที่บุกทุบข้าวของร้านอาหารตามสั่งของนางพิมพ์เพ็ญ จันทร์แวว อายุ 41 ปี เลขที่ 18 หมู่ 7 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และร้านของนางสุรกฤษ กลมเกลี้ยง อายุ 47 ปี บ้านเดิมที่จ.บุรีรัมย์ เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ก.ค.60ที่ผ่านมา ขณะที่ทั้งสองไม่อยู่บ้าน และขาดส่งเงินกู้รายวัน ของเจ้าหนี้ทำให้คนเก็บดอกรายวันไม่พอใจ แอบย่องมาทุบข้าวของที่ร้านและห้องพักของผู้เสียหายจนพังยับเยิน

 

 

           จากการตรวจสอบทราบชื่อคนเก็บเงินรายวันซึ่งมีนายโอ กับนายยะ หรือยักษ์ ที่ยังโทรมาข่มขู่ทั้งสองอีกว่า พวกมึงต้องเจอดีแบบนี้ เพราะขาดส่งมาร่วม 2 วันแล้ว ทำให้นางพิมพ์เพ็ญ และนางสุรกฤษเกิดความหวาดกลัวจนต้องปิดร้านหนีออกไปอยู่บ้านญาติเกรงจะได้รับอันตราย

           หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพอทราบรูปร่างผู้ต้องสงสัยที่พบเห็นรูปถ่ายในไลน์ที่โทรศัพท์มาหา2 สาวลูกหนี้ดังกล่าว จึงได้ออกติดตามหาตัวคนเก็บเงินกู้มาสอบสวนหาข้อเท็จจริง

           ล่าสุดได้รับรายงานจากชุดสืบสวนว่าตอนนี้สามรถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้วหนึ่งคนในหมู่บ้านก้องตะวัน ตลาดสามทหารกบินทร์บุรี

           พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนได้ตามจับกุมตัวคนเก็บเงินกู้รายวันได้แล้ว โดยเป็นลูกจ้างทำหน้าที่คอยเก็บเงินกู้รายวัน ซึ่งรับงานมาจากนายทุนปล่อยเงินกู้อีกทอดหนึ่ง ซึ่งไม่ทราบชื่อนายทุนเงินกู้ที่เป็นชาว จ.ระยอง ทราบชื่อคือนายแดลเนียล ธัญบาส ลูกครึ่งไทยเนเธอร์แลนด์ อายุ 27 ปี เลขที่ 7/1 หมู่ 12 ต.ทุ่งควายกิน อ.แกลง จ.ระยอง ซึ่งนายแดลเนียลจะทำหน้าที่เก็บเงินกู้รายวันจากพื้นที่ต่าง ๆ คือเก็บจากที่บ้านโคก 2 ราย เก็บจากตำบลวังดาล 2 ราย และเก็บที่วงเวียนนเรศวรอีก 2 ราย

 

 

           ขณะที่นายแดลเนียล กล่าวว่า ตนไม่ได้ไปทำร้ายข้าวของใครตามที่มีคนกล่าวหา แต่ยอมรับว่าตนกับเพื่อนได้เป็นคนเก็บเงินกู้รายวันจริง แต่ไม่ได้เป็นคนทำร้ายข้าวของใคร อาจเป็นเพื่อนคนใดก็ได้เป็น คนทำลายข้าวของลูกหนี้ ก่อนเกิดเหตุลูกหนี้ทั้ง 2 คนนี้ขาดส่งเงินรายวันมาแล้ว 1-2 วัน ตนจึงบอกให้หามาส่งคืนเสีย จะได้ไม่มีปัญหาในการกู้ยืมเงิน ที่ผ่านมาตนไม่เคยข่มขู่ลูกหนี้แต่อย่างใด และที่ตนสักคิ้วใหญ่ ลายเหมือนคิ้วยักษ์ ก็เพื่อความดุดันเหมือนยักษ์เท่านั้น

           ด้าน ร.ต.ท.ชลวิทย์ อธิพันสีห์ ร้อยเวร(สอบสวน) และพ.ต.อ.สมบัติ พอดี ผกก.สอบสวนบก.สส.ภ.2 ช่วยราชการ สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า ต้องต่างคนต่างสอบสวน เพราะมีผู้เสียหายที่มาแจ้งความ 2 คน โดยต่างเป็นพยานแก่กันและกันว่า ทั้ง 2 เชื่อว่านายยักษ์ เป็นผู้ทำลายข้าวของตนจริงเพราะมีเบอร์ไลน์โชว์อยู่ในมือถือของตน ตำรวจได้แจ้งข้อหาแก่นายแดลเนียล คือปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยเกินกำหนด ทวงหนี้ในยามวิกาล บุกรุก และจะทำการสอบประวัติเพิ่มเติมว่าได้ปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมายจริงหรือไม่