สาวใหญ่ตายเปลือยปริศนาในรถเก๋งตัวเอง

          17 ก.ค.60 ร.ต.ท.วชิราการณ์ วัฒนะ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองลพบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ191 ว่า มีผู้พบศพหญิงตายเปลือยภายในรถยนต์เก๋ง ที่หน้าตลาดสดเสาธง ต.ท่าแค อ.เมือง ลพบุรี ร.ต.ท.วชิราการณ์ จึงได้รายงานให้ พล.ต.ต.ฎิษพจณ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผบก.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.อ.พิษณุ พราหมเทศ ผกก.สภ.เมือง ลพบุรี ทราบ พร้อมทั้งได้ประสานแพทย์เวร รพ.พระนารายณ์มหาราช ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ลพบุรี และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูร่วมเดินทางไปยังจุดที่เกิดเหตุ

          ที่หน้าตลาดสดเสาธง หลังปั๊มน้ำมัน ปตท. พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กจ-1355ลพบุรี จอดอยู่ในสภาพประตูด้านหลังขวาเปิดแง้มอยู่เล็กน้อย ภายในรถพบศพนางทวีทรัพย์ สิงห์พันธ์ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่100/26 หมู่ที่3 ต.เขาพระงาม อ.เมือง ลพบุรี นอนเสียชีวิตในสภาพศพคว่ำหน้าที่พักเท้าที่นั่งตอนหลัง ไม่สวมเสื้อผ้า และศพเริ่มขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมสถานที่เกิดเหตุอย่างมิดชิด

 

 

          จากการสอบถาม นายยุทธพงษ์ สิงห์พันธ์ บุตรชายที่เดินทางมาดูศพแม่ กล่าวด้วยเสียงสะอื้นว่าเมื่อเช้าตนเองได้เดินทางมาดูที่ร้านเสริมสวยของแม่ ไม่พบตัวแม่ แต่พบว่ารถจอดอยู่ ซึ่งคิดว่าแม่คงจะไปเที่ยวกับเพื่อนๆ และไม่ได้เอะใจว่ามีศพแม่อยู่ภายในรถจึงได้โทรบอกน้องสาว และพ่อว่าพบรถแม่แล้วไม่ต้องเป็นห่วง รถแม่จอดอยู่ที่ใกล้ร้านเสริมสวย ประตูรถล็อกเรียบร้อย

          ร.ต.เดชา สิงห์พันธ์ อายุ 67 ปี สามีของนางทวีทรัพย์ จึงได้เดินทางมาดูพร้อมทั้งกุญแจรถสำรอง เมื่อเปิดประตูรถต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบศพภรรยาตัวเองนอนตายเปลือยในรถ จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ 

 

 

          ร.ต.เดชา กล่าวอีกว่า ภรรยาของตนเองได้ออกจากบ้านไปตั้งแต่คืนวันศุกร์ ที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งภรรยาของตนทำงานเป็นช่างเสริมสวย มีเพื่อนฝูงและลูกค้ามากมาย โดยปกติภรรยาของตนเองเมื่อถึงช่วงเข้าพรรษา มักจะชวนเพื่อนๆ ไปบวชชีพราหมณ์แทบทุกปี จึงไม่ได้เอะใจ ตนเอง และลูกๆ ได้โทรศัพท์ติดต่อ แต่ไม่มีผู้รับสาย จนแบตเตอรี่ โทรศัพท์หมด และได้สอบถามเพื่อนๆ ของภรรยาก็บอกว่าไม่พบตัวหลายวันแล้ว ไม่ทราบว่าไปบวชที่ใด จนมาพบอีกทีภรรยากลายเป็นศพตายเปลือยในรถแล้ว ซึ่งตนเองก็แปลกใจว่าทำไมภรรยาต้องถอดเสื้อผ้าด้วย

 

 

          ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้เก็บรวบรวมหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุและพยานแวดล้อม เพื่อเร่งสอบสวนการเสียชีวิตปริศนาในครั้งนี้ว่ามาจากสาเหตุใดกันแน่ ทั้งเรื่องโรคประจำตัวของนางทวีทรัพย์ การฆาตกรรมอำพราง หรือการฆ่าตัวตาย โดยร้อยเวรเจ้าของคดีได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งพิสูจน์อีกครั้งที่ รพ.พระนารายณ์มหาราช หรือถ้าหากทางญาติติดใจในการเสียชีวิตครั้งนี้ก็จะนำส่งสถาบันนิติวิทยากรมตำรวจต่อไป