รวบหนุ่มบุรีรัมย์ หลอกขายกล้องฟรุ้งฟริ้ง

          18 มิ.ย.60 - พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ห้วยขวาง พ.ต.ท.เขมรินทร์ พิสมัย รอง ผกก.สน.ห้วยขวาง ร.ต.อ.ฐิติวุฒิ นามเทือง รอง สว.ส.รฟ.อยุธยา กก.2บก.รฟ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ191 ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายธนากร พุดหอม อายุ 21ปี อยู่บ้านเลขที่ 358/156 หมู่ 17 ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ผู้ต้องหาตามจับศาลแขวงพระนครเหนือเลขที่ 131/2560 ลงวันที่ 8 มี.ค. พ.ศ.2560 ในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ โดยสามารถจับกุมได้ที่สถานีรถไฟจ.พระนครศรีอยุธยา

          ร.ต.อ.ฐิติวุฒิ กล่าวว่า ผู้ต้องหาได้นำบัตรประชาชนไปซื้อตั๋วรถไฟที่หัวลำโพงเพื่อที่จะเดินทางไปจ.เชียงใหม่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบข้อมูลจนพบว่านายธนากร เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ หลังจากที่นายธนากร ขึ้นรถไฟที่หัวลำโพง จึงให้เจ้าหน้าทำการตรวจสอบว่าผู้ต้อหาได้ขึ้นรถไฟตามที่ซื้อตั๋วไว้หรือไม่ เพื่อพบตัวนายธนากร จึงได้แสดงหมายศาลแล้วเข้าควบคุมตัว ก่อนประสานให้เจ้าหน้าที่ สน.ห้วยขวางมาควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดี

 

 

          พ.ต.อ.กัมพล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความที่ สน.ห้วยขวางว่าถูกนายธนากร หลอกขายกล้องฟรุ้งฟริ้งผ่านเว็ปไซด์ จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ191 และเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ จนสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด ทั้งนี้พฤติการณ์ของผู้ต้องหาคือจะทำทีโพสต์ขายสินค้ากล้องฟรุ๊งฟริ๊ง ผ่านทางเว็ปไซต์ขายดี อาทิ คาเมร่าทูแฮนด์,โฟนฮิพ,เฟสบุ๊ก โดยใช้ชื่อว่า “Tanakorn Puthom” และแอฟพลิเคชั่นไลน์ ใช้ชื่อว่า Bella จนมีผู้หลงเชื่อสั่งซื้อสินค้าและโอนเงิน หลังจากนั้นผู้ต้องหาจะทำทีบ่ายเบียงว่าสินค้ายังไม่ถึง และจะติดต่อผู้ต้องหาไม่ได้อีก 

          พ.ต.อ.กัมพล ระบุอีกว่า จาการสอบสวนผู้ต้องหาทราบว่า ก่อนหน้าที่เคยขายของออนไลน์ จนเห็นมีบางเว็ปไซต์หลอกขายสินค้า ตนเลยอยากทำบ้างจึงทดลองโพสต์ขายกล้องฟรุ๊งฟริ๊ง ต่อมามีคนติดต่อเข้ามาซื้อจริงๆ ทั้งนี้หากมีผู้เสียหายทวงเงินหรือจะดำเนินคดีก็จะเอาเงินจากลูกค้าคนอื่นไปคืนเพื่อให้จบเรื่องไป ขณะนี้มีผู้ต้องหามากกว่า20ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 200,000บาท นอกจากนี้ยังมีกลยุทธ์โดยการตั้งราคาที่ต่ำว่าราคาท้องตลาดทำให้ล่อตาล่อใจคนซื้อ

 

 

          “อาจจะดูว่ามูลค่าความเสียหายไม่มากนัก แต่ลักษณะการก่อเหตุนั้นง่ายมาแค่มีโทรศัพท์มือถือ และอินเตอร์เน็ตก็สามารถก่อเหตุได้แล้ว อีกอย่างผมเชื่อว่าพฤติกรรมเลียนแบบ อย่างนี้มีอยู่ในสังคมและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและอยากเตือนประชาชนให้ระวังภัยหากซื้อของผ่านเว็ปไซต์ ให้ตรวจสอบข้อมูลและรีวิวต่างๆ หรือหากเป็นไปได้ให้ติดต่อรับของด้วยตัวเองจะดีกว่า”พ.ต.อ.กัมพล ระบุ

           อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ต้องหารายนี้ ตรวจสอบพบว่ามีีหมายศาลแขวงจังหวัดเชียงใหม่ และศาลจังหวัดเลย ในข้อหาฉ้อโกง