191รวบโจ๋ขายกัญชา-ยาบ้าผ่านโซเชียลก่อนส่งทางไปรษณีย์

       เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 4 มิถุนายน ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ. หรือ 191) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. และเจ้าหน้าที่ทหารร้อย รส.ม.พัน 2 พล.ร.2 รอ. ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายตูน (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี และ นายศราพิชัย หรือเซียร์ ศิริประยงค์ อายุ 20 ปี พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่งรวม 37 กิโลกรัม ยาบ้า 4,000 เม็ด เครื่องชั่งน้ำหนัก 2 เครื่อง สร้อยคอทองคำนำหนัก 3 บาท รถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีเทา หมายเลขทะเบียน พก 1393 กรุงเทพมหานคร รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ สีขาว-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เงินสด 73,600 บาท และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง

       พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่บก.สปพ. สืบทราบว่านายปิยณัฐ ลักลอบค้ายาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) โดยมีพฤติกรรมนำมาซุกซ่อนไว้ที่บ้านพักภายในหมู่บ้านเพอร์เฟคปาร์ค เลขที่ 11/78 ซอยร่มเกล้า 64 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กทม. ก่อนนำมาจำหน่ายให้กับลูกค้าผู้เสพกัญชาทั่วไปในย่านร่มเกล้าและซอยรามคำแหง 160 (ซอยมิสทีน) แขวงและเขตสะพานสูง กทม. อีกทั้งยังจำหน่ายกัญชาให้กับลูกค้าทางออนไลน์และโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นกลุ่มลับในแอพพลิเคชั่นไลน์และเฟซบุ๊ก เมื่อตกลงราคากันได้จะให้ลูกค้าโอนเงินชำระค่ายาเสพติด จากนั้นจะแพ็คยาเสพติดส่งมอบให้ลูกค้าผ่านทางบริการไปรษณีย์ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.สปพ. จึงสนธิกำลังกับทหารสังกัดร้อย รส.ม.พัน 2 พล.ร.2 รอ. เข้าทำการตรวจค้นที่บ้านพักเป้าหมายจนกระทั่งพบนายปิยณัฐ พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่ง จำนวน 37 แท่ง ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในตู้เสื้อผ้าบริเวณห้องนอนชั้นบน พร้อมสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาท เงินสด 73,600 บาท และโทรศัพท์มือถือซึ่งมีข้อมูลการติดต่อซื้อขายยาเสพติด จึงตรวจยึดของกลางไว้เป็นหลักฐาน

        พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนนายตูน ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ประกอบอาชีพเป็นพนักงานเสิร์ฟภายในร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา ก่อนมารู้จักกับลูกค้ารู้เพียงชื่อเล่นว่า “แมว” ได้ชักชวนให้ค้ากัญชากับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ ซึ่งปกตินั้นผู้ต้องหาจะเป็นผู้หาเงินเลี้ยงตัวเองและมีรายได้น้อย จึงตัดสินใจร่วมเข้าขบวนการค้ายาเสพติดซึ่งทำมาได้เพียง 4 เดือนเท่านั้น ทั้งนี้กลุ่มขบวนการผู้ค้ายาเสพติดของผู้ต้องหาได้กระจายอยู่กันอีกหลายพื้นที่ โดยแต่ละรายจะแบ่งจำหน่ายประเภทกันออกไปมีทั้งยาไอซ์ ยาบ้า ยาเค กัญชา ยาแก้ไอและใบกระท่อม เมื่อมีผู้เสพจำนวนมากจะขยายฐานลูกค้าเพิ่มเติมทางโลกสังคมออนไลน์ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าในเครือข่ายของนายตูน มีนายศราพิชัย เป็นผู้ค้าย้าบ้าซึ่งพักอาศัยอยู่ย่านร่มเกล้า จึงขยายผลเข้าจับกุมตัวได้พร้อมของกลางย้าบ้า 4 พันเม็ด เมื่อตรวจสอบพบว่าของกลางที่นำมาจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้านั้นจะขายในราคาถูกกว่าปกติเฉลี่ยเพียงแค่เม็ดละ 22 บาทเท่านั้น เนื่องจากเป็นการตัดยอดจากทางคู่แข่งบนโลกสังคมออนไลน์ โดยของกลางนั้นรับมาจากเอเย่นต์ที่ประเทศเพื่อนบ้านซึ่งลักลอบนำเข้ามาจากจังหวัดมุกดาหาร หนองคาย และนครพนม

       ทั้งนี้ ในวันที่ 7 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ ตนจะนัดผู้ใหญ่ของไปรษณีย์และบริษัทเคอรี่เข้าร่วมประชุม เพื่อวางมาตราการเชิงลุกและแนวทางในการป้องกันการลำเลียงสิ่งผิดกฎหมายทั้งอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด และยาเสพติด ฯลฯ ทั้งนี้อยากฝากเตือนถึงขบวนการค้ายาเสพติดให้เลิกโฆษณาหรือแข่งขันจำหน่ายกันบนโลกสังคมออนไลน์ หากตรวจพบจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

       เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานายตูน มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ส่วนนายศราพิชัย ถูกดำเนินคดีในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสน.ร่มเกล้า เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป