พ่อน้องแอ๋ม อยากคุย"เปรี้ยว" สาเหตุฆ่า

     ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวนางสาวปรียานุช “เปรี้ยว” โนนวังชัย อายุ 24 ปี  ,นางสาวกวิตา “เอิร์น” ราชดา อายุ 25 ปี และนางสาวอภิวันทน์ “แจ้” สัตยบัณฑิต อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาคดีีร่วมกันฆ่าหั่นศพ นางสาววริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ “น้องแอ๋ม” แล้วนำไปฝังดินที่ อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ได้ที่ประเทศเมียนมาร์ และประสานส่งตัวให้กับทางตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ด่านแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยจะทำการสอบสวนขยายผล ก่อนที่จะคุมตัวผู้ต้องหาแถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น

      ล่าสุดทางด้าน นายสุชาติ คำเพลิงใจ บิดาของน้องแอ๋ม ได้เปิดเผยว่า ภายหลังทราบข่าวว่าตำรวจได้ควบคุม“เปรี้ยว”ได้แล้ว ทางครอบครัวรู้สึกดีใจ โดยทราบข่าวผ่านทางโชเซียล ดีใจกันมาทั้งครอบครัว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทำงานได้เร็วมาก ขอบคุณมาก ๆขอบคุณทุกหน่วยงานที่ช่วยกัน ก่อนหน้านี้ลุ้นอยู่ว่าตำรวจจะสามารถจับกุมได้หรือไม่

    นายสุชาติ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามในวันนี้ จะเดินทางไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  เพราะตอนนี้ตนได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านอีกหลังหนึ่งในกรุงเทพแล้ว โดยอยากจะได้ดูหน้า“เปรี้ยว” และอยากจะถามอะไรบางอย่าง

     “ผมอยากจะคุยต่อหน้า ไม่อยากจะคุยอะไรตอนนี้ อยากจะคุยกันตรง ๆ แบบจะๆ อยากจะถามว่า ทำลูกถึงขั้นเอาชีวิตกันแบบนี้ โกรธแค้นอะไรกันมาก ทำไมจะต้องฆ่าหั่นศพแบบนี้ คนตายไปแล้ว ทำไมจะต้องทำแบบนี้ จิตใจทำด้วยอะไร เป็นคนหรือไม่ใช่คน ซึ่งทันทีที่ทราบข่าวว่าจับคนร้ายได้ ผมได้จุดธูปบอกลูกสาวให้รับรู้แล้ว ถึงแม้ว่าพ่อจะได้สูญเสียหนูไปแล้ว แต่พ่อดีใจที่จับคนร้ายได้แล้ว ต่อจากนี้จะเป็นหน้าที่ของพ่อจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ผมจะดำเนินการให้ถึงที่สุด สู้ให้ถึงที่สุด ไม่อยากให้ติดคุก อยากให้ประหารชีวิต และหลังจากนี้จะดำเนินการฟ้องร้องผู้ที่พาดพิงถึงลูกสาวไปในทางที่ไม่ดี ซึ่งที่ผ่านมาผมติดตามข่าวแทบจะทุกวินาทีเก็บข้อมูลไว้ทุกอย่างแล้ว ” นายสุชาติ ระบุ

     ขณะที่นางประภาศิริ สมศรี พี่สาวของ“เปรี้ยว” ได้เปิดเผยว่า หลังทราบข่าวว่าน้องสาวอยู่ในความดูแลของตำรวจนั้น ตนรู้สึกดีใจ เพราะเห็นว่าน้องสาวปลอดภัย โดยทั้งตน และพ่อแม่ รวมถึงพี่ชาย ได้นั่งเฝ้าหน้าจอทีวีเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของข่าวอยู่ตลอดเวลา โดยตนได้บอกกับแม่แล้วว่า น้องสาวอยู่กับตำรวจแล้ว โดยทันทีที่แม่ทราบข่าว แม่ได้ยกมือท่วมมือ ที่น้องสาวได้เข้ามอบตัวกับทางตำรวจแล้ว ได้เห็นหน้าน้องสาว ได้รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ อย่างไรก็ตาม ตนและครอบครัวคงจะไม่ต่อสู้อะไรทั้งสิ้น อยากให้น้องสาวสารภาพในสิ่งที่ทำ ทำกันอย่างไร ทำกันกี่คน ซึ่งหลังจากนี้คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกฎหมาย

    อย่างไรก็ตามยังมีรายงานว่า ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้นั้น ได้ปรากฎภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะที่ผู้ต้องหาทั้งสามคนกำลังเดินซื้อของใช้ส่วนตัว ฝั่งประเทศเมียนมาร์ โดยกล้องบันทึกภาพเมื่อเวลา 19.49 วันที่ 3 มิถุนายน