จับทอมแสบตุ๋นไปทำงานเกาหลีใต้เสียหายร่วมล้านบาท

     วันนี้ (25 พ.ค.) พ.ต.ท.สิทธิพร ธารากุลทิพย์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ร.ต.ท.เวนิช ประเสริฐ รอง สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังจับกุม น.ส.กิตติยา มุกสิกพันธ์ อายุ 30 ปี ภูมิลำเนา จ.อุดรธานี ตามหมายจับศาลแขวงอุดรธานี ที่ จ 46/2560 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2560 ข้อหา“ฉ้อโกงทรัพย์”โดยจับกุมได้ที่ห้องพักหมายเลข 202 อพารต์เมนต์แห่งหนึ่ง ในซอยพรมประกาย เขตเทศบาลนครอุดรธานี พร้อมของกลาง หนังสือเดินทางของบุคคลอื่นจำนวนมาก คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง สำเนาเอกสารทางราชการจำนวนหนึ่ง และบัญชีเงินฝากธนาคาร 2 เล่ม

     สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 ธันวาคม 2559 ร.ต.ท.สถิตย์ ภูบังแสง รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งความจาก น.ส.ภัณฑิลา โชคสกุลไพศาล อายุ 46 ปี อยู่ที่ 112 หมู่ 5 ต.บ้านดู่ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ พร้อมพวกอีก 10 คน ว่า เมื่อเดือนมกราคม 59 ได้ถูก น.ส.กิตตยา มุสิกพันธ์ หลอกลวงว่า สามารถส่งไปทำงานที่ประเทศเกาหลีได้ โดยมีการเรียกเก็บเงินค่าดำเนินการหลายครั้ง แต่ยังไม่สามารถบินไปทำงานได้ ซึ่ง น.ส.กิตติยาฯ ให้เหตุผลว่า ผู้ดำเนินการซึ่งเป็นคนไทยในประเทศเกาหลีใต้มีเรื่องติดขัด ต้องจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพิ่ม จึงจะสามารถดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งได้เรียกเก็บกับ น.ส.ภัณฑิลาฯ อีกหลายครั้ง มากที่สุดในกลุ่มที่ถูกหลอก รวมเป็นเงินถึง 605,000 บาท แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้ จกนั้นก็ไม่สามารถติดต่อ น.ส.กิตติยาฯ ได้ โดยทุกคนที่มาแจ้งความต่างถูกหลอกเสียเงินไปคนละ 5 หมื่น ถึง 1 แสนบาท รวมเป็นเงินร่วม 1 ล้านบาท

     จากการสอบสวน น.ส.กิตติยา ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกับคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ ตั้งแก๊งหลอกลวงส่งแรงงานไปทำงานที่เกาหลีใต้ โดยไม่ได้ผ่านทางกรมการจัดหางาน ซึ่งผู้ที่ถูกหลอกตนจะแบบซื้อตั๋วเดินทางไปแบบนักท่องเที่ยว ครั้งละ 5-6 คน เมื่อเข้าประเทศเกาหลีได้ ก็จะมีคนไทยในที่นั่นมารับตัวไปทำงาน โดยตนจะเรียกเก็บค่าหัวคนละ 5 หมื่นไปจนถึง 1 แสนบาท หรือมากกว่านั้น

     ช่วงแรกที่ส่งไปสามารถเข้าไปทำงานได้ เพราะตอนนั้นทางตรวจคนเข้าเมืองที่เกาหลีใต้ไม่เข้มงวด ซึ่งตนส่งไปแบบเสี่ยงดวง เมื่อกลุ่มแรก ๆ สามารถเข้าไปทำงานได้ จึงทำให้มีการพูดกันปากต่อปาก จึงมาคนแห่มาสมัครงานกับตนมาก โดยตนจะได้ส่วนแบ่งรายละ 5,000 บาท แต่มาช่วงหลังทางตรวจคนเข้าเมืองที่เกาหลีใต้เข้มงวดมาก จนคนที่ส่งไปไม่สามารถเข้าไปทำงานเหมือนเดิมได้ ตนจึงได้เรียกเก็บเงินจากผู้เสียหายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่สามารถส่งผู้เสียหายทั้งหมดไปทำงานได้ และเมื่อถูกทวงถามตนไม่มีเงินคืนให้ จึงหนีมาเช่าห้องพักหลบซ่อนตัว แต่ก็ยังแอบหลอกลวงคนหางานไปทำงานแบบเดิมอีก จนกระทั่งมาถูกตำรวจจับกุมได้

     ร.ต.ท.สถิตย์ ภูบังแสง รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า มีผู้เสียหายจากทั่วประเทศเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.กิตติยา ซึ่งต้มตุ๋นหลอกลวงแรงงานว่า พาไปทำงานที่ประเทศเกาหลีได้ โดยมีผู้ร่วมขบวนเป็นคนไทยอาศัยอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ร่วมด้วย เมื่อส่งแรงงานเข้าไปในแบบนักท่องเที่ยวแล้วหลบหนีไปทำงานได้ โดยมีคนมารับไปทำงาน มาระยะหลังทางเกาหลีใต้เข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะคนไทย เมื่อทางตรวจคนเข้เมืองเกาหลีใต้ไม่ให้เข้าประเทศ ก็ถูกส่งกลับ ใช้วิธีเสี่ยงดวงเอา ขณะนี้มีผู้เสียหายมาแจ้งความแล้ว 11 ราย มูลค่าเสียหายประมาณ 1 ล้านบาท จึงมีหมายจับกว่า 10 หมาย คาดว่าจะมีผู้เสียหายมาแจ้งความเพิ่มอีก