ลูกหนี้ค้านประกันนายทุนดอกเบี้ยโหด

          เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 17 พ.ค.60 นายสมชาย วิทย์ดำรง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภจว.นครพนม นายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รอง ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนม และพ.ต.อ.อุกฤษ ทรงชัยสงวน ผกก.สภ.เมือง นครพนม ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนางสุพิชญ์ฌา อภิชัจฐ์โภคิน อายุ 56 ปี เจ้าของบริษัทภูวษา จำกัด และบริษัท มิตรศิลป์มอเตอร์ไซด์ จำกัดและบริษัทในเครืออีกหลายบริษัท ซึ่งมีสาขากว่า 20 สาขากระจายอยู่ในพื้นที่หลายจังหวัดในภาคอีสาน

          ก่อนหน้านี้ชาวบ้านมาแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่สภ.เมืองนครพนม ว่าถูกนางสาวสุพิชญ์ฌา ฉ้อโกงที่ดินที่นำมาจำนอง อีกทั้งเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด และใช้วิธีหลอกให้เซ็นต์สัญญากู้ยืมเงินเกินความจริง เพื่อใช้เป็นหลักฐานผูกมัดเหยื่อในการฟ้องร้องดำเนินคดี หลังพนักงานสอบสวนแล้วได้ขออนุมัติออกหมายจับกรรมการบริษัท 2 คนของบริษัทมิตรศิลป์มอเตอร์ไซด์ คือ นางสาวสุพิชญ์ฌา อภิชัจฐ์โภคิน และนางสาวศศิณัฐญา อภิชัจฐ์โภคิน ลูกสาว ซึ่งขณะเกิดเหตุได้เดินทางไปประเทศอเมริกา

          พลต.ต.สุวิชาญ กล่าวว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวนางสาวสุพิขญ์ ได้ขณะที่ผู้ต้องหาเดินทางมาที่สภ.เมืองนครพนม ได้สั่งการให้ระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นกิจการโชว์รูมขายรถจักยานยนต์ เลขที่ 924/1-4ถนนอภิบาลบัญชา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครพนมและสำนักงานสาขาอื่นอีกหลายแห่งในตัวเมืองนครพนม เพื่อตรวจสอบหาหลักฐาน เชื่อมโยงกับการปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมาย พร้อมยึดและอายัดทรัพย์สินหลายรายการเพื่อตรวจสอบ ว่าเป็นทรัพย์สินที่ผู้ต้องหาได้มาจากการกระทำความผิดหรือไม่ และจะได้ดำเนินการตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

          ระหว่างที่แถลงข่าวมีกลุ่มชาวบ้านที่ตกเป็นเหยื่อของนายทุนรายนี้ต่างพากันมารอฟังการแถลงข่าวพร้อมได้มอบช่อดอกไม้ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมเพื่อเป็นการตอบแทน ที่สามารถนำตัวนายทุนรายนี้มาดำเนินคดีได้

          เมื่อเวลา 15.00 น. พนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังกับศาลจังหวัดนครพนม คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีฐานะทางการเงิน นอกจากนี้มีกลุ่มผู้เสียหายเดินทางมาที่ศาล พร้อมยื่นหนังสือต่อศาลขอคัดค้านการประกันตัวของผู้ต้องหา โดยอ้างว่าผู้ต้องหารายนี้มีฐานะทางการเงิน ประกอบกับอยู่ระหว่างการรออ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ในคดีนำความอันเป็นเท็จไปเบิกความต่อศาล ซึ่งศาลชั้นต้นได้ตัดสินลงโทษจำคุกเป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา หากให้ผู้ต้องหาประกันตัวออกมาเกรงว่าอาจจะหลบหนีได้