ข่าว

พ่อ-แม่รอปาฏิหาริย์ "เจ้าชายนิทรา" เหยื่อไม้หน้าสามรุ่นพี่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คณะอาจารย์-เพื่อน-พัฒนาสังคมฯ-ก.ยุติธรรมเยี่ยมอาการเหยื่อถูกรุ่นพี่ใช้ไม้หน้าสามฟาดเป็นเจ้าชายนิทรามอบเงินเยียวยาพ่อเม่หวังปาฎิหาริย์ด้านตร.ยันให้ความเป็นธรรม

 

          กรณีนายสิทธชัย เป็งนันท์ หรือจ๊อบอายุ 16 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนนาน้อย อ.นาน้อย จ.น่าน ถูกรุ่นพี่ตีด้วยไม้หน้าสามที่ศีรษะ ด้วยเหตุไม่พอใจที่ไม่ให้ยืมกีตาร์ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งขณะนี้นายสิทธชัยยังต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลน่าน อาการยังน่าเป็นห่วง ไม่รู้สึกตัวเป็นเจ้าชายนิทรา ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา และอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์-พยาบาลอย่างใกล้ชิด ส่วนพ่อ-แม่รอปาฏิหาริย์ หวังให้ลูกฟื้น

          ล่าสุดเช้าวันนี้ (16 พ.ค.)ทางคณะครูโรงเรียนนาน้อย และเพื่อนนักเรียน ได้เข้ามาเยี่ยมให้กำลังใจ กับนายสิทธชัย โดยเพื่อนๆ เข้ามาให้กำลังใจและจับมือบีบนวดตามร่างกายเพื่อกระตุ้นความรู้สึกให้กับเขา โดยทางเพื่อนนักเรียนเปิดเผยว่า น้องจ๊อบเป็นคนนิสัยดี ชอบเล่นดนตรี เวลาไปไหนมาไหนก็จะนำกีตาร์ติดตัวไปด้วยเพื่อเล่น และรู้สึกสะเทือนใจกับเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับเพื่อนของตนเอง และไม่คิดว่าจะอาการหนักขนาดนี้ โดยคณะครูและนักเรียนได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง จากการร่วมบริจาคของเพื่อนนักเรียนในโรงเรียน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้กับผู้ดูแลน้องจ๊อบและช่วยเป็นค่ารักษาพยาบาลบางส่วน

          ทางด้านพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.น่านและกระทรวงยุติธรรม ได้นำคณะเข้ามาเยี่ยมอาการ นายสิทธชัย และให้ข้อแนะนำต่างๆเกี่ยวกับการเยียวยา และการช่วยเหลือในด้านต่างๆ ในส่วนของกระทรวงยุติธรรม จ.น่าน ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ และสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเก็บข้อมูลเพื่อทำการช่วยเหลือต่อไป

          นายประเทือง ชอบธรรม ผอ.โรงเรียนนาน้อย กล่าวว่า รู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก ที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในโรงเรียน โดยทางโรงเรียนไม่ได้นึ่งนอนใจ ได้เข้าช่วยเหลือน้องจ๊อบตั้งแต่วันที่เกิดเหตุที่ผ่านมา และวอนสื่อสังคมโซเซียลมีเดีย หยุดวิพากษ์วิจารณ์โรงเรียนได้แล้ว เนื่องจากเหตุที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเรื่องระหว่างบุคคล 2 คน ซึ่งทางโรงเรียนอาจจะดูแลไม่ทั่วถึงจริง แต่เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น น่าจะเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบของผู้ก่อเหตุ 

          “เมื่อเช้าที่ผ่านมา ทางโรงเรียนได้มีการประชุม หามาตรการรักษาความปลอดภัย โดยจะจัดเจ้าหน้าที่เดินตรวจตราในโรงเรียนให้เพิ่มมากขึ้น ถี่ขึ้น หมั่นให้ครูสอดส่องดูแลนักเรียนให้มากขึ้น และทางโรงเรียน จะเพิ่มกล้องวงจรปิด ให้มากขึ้น ติดตามจุดเสี่ยงต่างๆ เพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำซ้อนได้อีกทาง”นายประเทือง กล่าว

          ด้าน พ.ต.ท.รุ่งโรจน์ ชูจันทร์ รองผกก.สภ.นาน้อย กล่าวว่า ตอนนี้ได้นำตัวผู้ต้องหาซึ่งเป็นรุ่นพี่ อายุ 18 ปี ไปฝากขังไว้ที่ศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้แจ้งข้อหาว่าเป็นการพยายามฆ่า และได้ส่งไม้หน้าสามไปตรวจสอบที่ กองพิสูจน์หลักฐาน ภาค 5 จ.ลำปาง เพื่อตรวจสอบดีเอ็นเอ และลายนิ้วมือแฝง น่าจะได้ผลการพิสูจน์เร็วๆ นี้ ในส่วนทางด้านผู้ปกครองของเด็กทั้ง 2 ฝ่าย ทางเจ้าหน้าที่รับปากว่า จะทำคดีอย่างเป็นกลางและเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ในส่วนด้านผู้ก่อเหตุรายอื่น ทางเจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนจากผู้ก่อเหตุอีกครั้งว่ามีเพิ่มเติมหรือไม่

          ในส่วนอาการของนายสิทธชัย ในวันนี้อาการยังทรงตัวอยู่ไม่ดีขึ้นและไม่ได้แย่ลงไปจากเมื่อวาน ทางครอบครัวยังคอยให้กำลังใจอย่างไม่ห่าง คอยนวดกระตุ้นให้ตลอดเวลา แทบไม่ได้หลับได้นอน เผื่อมีปาฏิหารย์ว่านายสิทธชัย อาจจะฟื้นขึ้นมาเป็นปกติเหมือนเดิมและในส่วนของทางด้านคู่กรณีผู้ก่อเหตุ ยังไม่มีใครมาเยี่ยมหรือมาดูแลแต่อย่างใด 

          ส่วนนายเทียน เป็งนันท์ บิดานายสิทธชัย  กล่าวว่า  ตั้งแต่เกิดเรื่องมายังไม่เคยเห็นคู่กรณีหรือทางฝั่งคู่กรณีมาเยี่ยม หรือดูอาการแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามทางด้านคดีขอให้ทางเจ้าหน้าที่ทำงานแบบเป็นกลาง และขอให้สังคมช่วยตัดสินด้วยว่า เหตุที่เกิดในลักษณะนี้นั้นจะต้องมีความผิดแบบไหน

          "จากที่ได้มาคิดไตร่ตรองดูแล้วนั้น หากถ้าว่าเป็นการบันดาลโทสะนั้น ไม่น่าจะเป็นไปได้ ถ้าเป็นการบันดาลโทสะ ก็คงจะมีการชกต่อยกันตั้งแต่การยืมกีตาร์แล้ว แต่นี่เหมือนมีการเตรียมการไว้ก่อน และได้นำอุปกรณ์มาเป็นอาวุธเพื่อใช้ก่อเหตุ" นายเทียน กล่าว

          ขณะที่นายแพทย์พงษ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ รองผู้อำนวยการ รพ.น่าน อธิบายว่า สภาพสมองของนายสิทธชัยที่ได้รับความกระทบกระเทือน อย่างรุนแรงและบอบซ้ำเป็นอย่างมาก ซึ่งจากการผ่าตัดนั้นช่วยรักษาขึ้นมาในระดับหนึ่ง และในส่วนของอาการตอนนี้ยังอยู่ในขั้นวิกฤต นอนไม่รู้สึกตัว ไม่ขยับเขยื้อน ต้องให้ทางญาติๆ ช่วยกับบีบนวดกล้ามเนื้อทุกส่วนเพื่อป้องกันกล้ามเนื้อตาย ในส่วนของทางด้านสมองนั้น ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้มากว่าเนื้อสมองจะตาย ทำให้สมองหยุดสั่งการ

          "ฝากเตือนถึงโรงเรียนต่างๆ ว่าน่าจะมีการเสริมวิชาในการความคุมอารมณ์ของมนุษย์ เพื่อฝึกให้เด็กสามารถควบคุมอารมตัวเองได้ เนื่องด้วยหากควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ เรื่องการใช้ความรุนแรงน่าจะลดลงได้อีกมาก"  นายแพทย์พงษ์เทพ กล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ