ข่าว

" สุวิระ"พาไอ้ใหญ่โหด ทำแผนเผาอำพรางมือฆ่ายกครัว3ศพ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ไอ้ใหญ่"ผู้ต้องหาฆ่ายกครัว3ศพเผาอำพรางคดีทำแผนรับสารภาพท่ามกลางประชาชนตะโกนสาปแช่ง แจงเรียกนายสำราญยิงบุกลั่นไกน.ส.รุ่งทิพย์กอดลูกสาวกระสุนทะลุดับ3ศพยกครัว

          23 เม.ย. 60 - พลตำรวจเอกสุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษา สบ.10 พร้อมด้วยพลตำรวจโท สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 พันตำรวจเอกบุญเลิศ บวรมหาชนก ผกก.สภ.สามร้อยยอด พร้อมด้วยชุดพนักงานสอบสวน สภ.สามร้อยยอด ได้นำตัว นายนิพนธ์ หรือใหญ่ ช้างแก้ว อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุฆ่าครอบครัวผู้ดูแลนากุ้งในอำเภอสามร้อยยอด ประกอบด้วยนายสำราญ เพชรประดับ อายุ 40 ปี เจ้าของบ้าน พร้อมด้วยนางสาวรุ้งทิพย์ สายทอง อายุ 38 ปี และเด็กหญิงประภัสสร เพชรประดับ อายุขวบครึ่ง บุตรสาว แล้วเผาบ้านเพื่ออำพรางคดี มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บ้านเลขที่ 100 หมู่ 7 ตำบลศาลาลัย อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  โดยมีชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงที่ทราบข่าว มารอดูเหตุการณ์ตั้งแต่ช่วงเช้า ทำให้ต้องจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และหน่วยกู้ภัยมูลสว่างเมธีธรรมสถานสามร้อยยอด มาอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัย ป้องกันการรุมประชาทัณฑ์

          ก่อนทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พลตำรวจเอกสุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษา สบ.10ได้เข้าพูดคุยทำความเข้าใจกับญาติของผู้เสียชีวิตที่รออยุ่ตั้งแต่เช้า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายใหญ่ ผู้ต้องหาลงจากรถตู้ เพื่อมาทำแผนขั้นตอนการลงมือก่อเหตุ โดยนายใหญ่ได้อธิบายขั้นตอนในวันเกิดเหตุว่า  ในช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ตนได้เดินมาเรียกนายสำราญ แล้วสอบถามว่า นายสำราญ เป็นคนแจ้งตำรวจมาจับตนหรือไม่ ซึ่งนายสำราญบอกว่า ไม่รู้เรื่อง ซึ่งนายใหญ่ได้ทำท่าหันหลังกลับ และหยิบอาวุธปืนขนาด 11 มม.ที่เตรียมไว้มาจ่อยิงนายสำราญ 1 นัด จากนั้นนายสำราญ ได้หันหลังวิ่งหนีเข้าบ้าน ตนจึงตามไปยิงซ้ำจนกระสุนหมดแม็กกาซีน จากนั้นตนจึงเข้าไปในบ้าน พบนางสาวรุ้งทิพย์ กอดประคองลูกน้อยไว้ในอ้อมกอด นายใหญ่จึงยิงนางสาวรุ้งทิพย์จากด้านหลังหลายนัด จนร่างของนางสาวรุ้งทิพทย์ ล้มหงาย และกระสุนก็ทะลุผ่านร่างไปโดนลูกสาวจนเสียชีวิต หลังก่อเหตุนายใหญ่ได้เดินไปที่บ้านพักของตนซึ่งอยู่ใกล้กัน

          จากนั้นเวลาประมาณ 04.00 น. ตนได้กลับมาบ้านที่เกิดเหตุ เห็นแกลอนน้ำมันวางอยู่ข้างรถยนต์ของนายสำราญ จึงได้ยกแกลลอนน้ำมันราดน้ำมันไปบนตัวรถ และเข้าไปราดน้ำมันภายในบ้าน บริเวณร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย และราดไปที่บริเวณกองเสื้อผ้า และใช้ไฟแช็คจุดไฟไปที่กองผ้าจนเพลิงลุกไหม้ จากนั้นตนก็ออกมายืนดูผลงานบริเวณหน้าบ้าน จนแน่ใจว่า เพลิงเผาบ้านทั้งหลัง ก่อนจะขับขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป และนำปืนที่ใช้ก่อเหตุไปซ่อนไว้ในท่อระบายน้ำในบ่อน้ำของนายประยูร เพชรประดับ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากที่เกิดเหตุ แล้วก็หลบหนีไป จนกระทั่งมาถูกตำรวจจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา

          ทั้งนี้ระหว่างการนำตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพได้มีชาวบ้านที่มามุงดูต่างตะโกนสาปแช่งนายใหญ่ ที่ใจคอโหดเหี้ยมฆ่าได้แม้กระทั่งเด็กวับขวบเศษ ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ขอให้ประหารชีวิต ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำตัวนายใหญ่ออกจากที่เกิดเหตุทันทีหลังจากที่ทำแผนเสร็จสิ้น

          ด้านพลตำรวจเอกสุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษา สบ.10 กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญ ได้สั่งการให้ตั้งคณะพนักงานสอบสวนเข้ามาร่วมกันรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียด จนมีหลักฐานเอาผิดผู้กระทำผิดอย่างชัดเจน  โดยยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างรัดกุม โดยขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 2 คน คือ นายนิพนธ์ หรือใหญ่ ช้างแก้ว ผู้ต้องหาที่ลงมือก่อเหตุ และรายที่ 2 คือ นายประยูร เพชรประดับ ซึ่งเป็นญาติของผู้ตาย ในข้อหากระทำความผิดฐานช่วยเหลือผู้อื่นไม่ให้ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง ซ่อนเร้น เอาไปเสียซึ่งเป็นพยานหลักฐานในการกระทำความผิด โดยสาเหตุที่ผู้ต้องหาลงมือก่อเหตุ เพราะโกรธแค้นเนื่องจากเข้าใจว่า นายสำราญเป็นคนแจ้งตำรวจมาจับตนในข้อหามียาบ้าจำนวน 6 เม็ด และมีอาวุธปืน ซึ่งคดีนี้ก็ถือว่า คลี่คลายลงอย่างรวดเร็วและรัดกุม.

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ