ข่าว

พ่อเหยื่อสาวคุรุสภาตะโกนถามมือยิง"ฆ่าลูกทำไม"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พ่อเหยื่อสาว ซี 4 สกสค. ตะโกนถามคนร้าย "ฆ่าลูกทำไม" ขณะทำแผนรับสารภาพ ด้านญาติ-เพื่อนรุมประชาทัณฑ์ จนท.ต้องรีบนำตัวกลับ "ศานิตย์"ยันค้านประกันเหตุโทษถึงประหาร

     เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 4 เมษายน  พล.ต.ท.ศานิตย์ มหาถาวร ผบช.น. พล.ต.ต.วัชรพงศ์ ดำรงศรี ผบก.น.1 พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.ศราวุธ จิตต์ระเบียบ รอง ผบก.น.1 พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต และเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลกว่า 20 นาย ควบคุมตัว นายจำลอง พุ่มมาลัย อายุ 49 ปี ผู้ต้องหายิง น.ส.วาสนา บุระคร อายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคคลากรทางการศึกษา (สก.สค.) จนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บริเวณภายในสำนักงานเลขาธิการครุสภา ถนนราชสีมา แขวง ดุสิต เขต ดุสิต กรุงเทพมหานครโดยมีจัดกำลังตำรวจ บก.น.1 กว่า 20 นาย พร้อมทั้งนำแผงเหล็ก และสายโปลิศไลน์ มากั้นแนว ทั้งนี้มีบรรดางเจ้าหน้าที่ สก.สค. และประชาชน ที่มามุงดูเป็นจำนวนมาก ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆนาๆ

     เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพทั้งหมด 4 จุด เริ่มจากจุดแรกคือบริเวณลานจอดรถข้างสนามหญ้าภายในคุรุสภา เป็นจุดที่ผู้ต้องหาแอบปล่อยลมรถยนต์ของ น.ส.วาสนา จุดที่สองคือบริเวณสนามหญ้า เป็นจุดที่ผู้ต้องหาก่อเหตุยิง น.ส.วาสนา จุดที่สามคือบริเวณป้อมยามหน้าอาคาร สก.สค. ฝั่งซ้ายของอาคาร เป็นจุดที่ผู้ต้องหาพยายามใช้อาวุธปืนฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จ และจุดที่สี่เจ้าหน้าที่นำตัว นายสมชาย ศรจิ้น อายุ 57 ปี ร่วมทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณหน้าอาคารสก.สค. ฝั่งขวาของอาคาร เป็นจุดที่นายสมชายขับรถยนต์มารับตัวนายจำลอง ไปส่งที่ส่งขึ้นรถประจำทางที่สายใต้ใหม่

     ทั้งนี้ นายสุพรม บุระคร อายุ 68 ปี บิดาของผู้ตาย ได้เดินทางมาดูการทำแผนครั้งนี้ด้วย ได้ตะโกนว่า “มึงฆ่าลูกกูทำไม” ส่วนบรรดาญาติๆ และเพื่อนของ น.ส.วาสนา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ สก.สค. ด้วยกัน ได้ตะโกนด่าทอสาปแช่งผู้ต้องหา ถึงความอำมหิตเลือดเย็น และวิงวอนให้ลงโทษประหารชีวิตสถานเดียว พร้อมทั้งพยายามเข้าไปทำร้ายผู้ต้องหา แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้กันตัวออกมาไว้ได้ ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาขึ้นรถกระบะของตำรวจไปสอบสวนต่อที่ สน.ดุสิต

       ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า นายจำลองได้นำชี้จุดเกิดเหตุ เริ่มตั้งแต่จุดปล่อยลมรถ เพื่อให้น.ส.วาสนาอยู่พูดคุยด้วยกัน ก่อนน.ส.วาสนา มาพบรถถูกปล่อยลมยาง จึงเจรจากับนายจำลอง โดยมีญาติของน.ส.วาสนา ยืนยันว่ามีการโต้เถียงเกี่ยวกับการคบหาคนใหม่ แต่นายจำลอง อ้างว่าเป็นการเจรจาเรื่องรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ก่อนเจรจาไม่สำเร็จ จึงใช้ปืนยิง 3 นัด และไปพบกับนายสมชาย ที่ให้การช่วยเหลือ โดยขับรถไปส่งนายจำลองก่อนที่จะหลบหนีไป

        พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวอีกว่า มูลเหตุเกิดจากเรื่องส่วนตัว และขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญอยู่ระหว่างตรวจสอบกระสุนปืน และปืนที่ผู้ต้องหานำมามอบให้ ยืนยันทำคดีด้วยความรัดกุมที่สุด ขอญาติอย่ากังวล เนื่องจากคดีนี้อัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต ตำรวจคัดค้านการประกันแน่นอน ก่อนคุมฝากขังศาลอาญา รัชดาภิเษก ในวันพรุ่งนี้(5 เมษายน)  

     ขณะที่ นายกิตติพันธ์ บุระคร พี่ชายคนโต กล่าวว่า รู้สึกมั่นใจในการทำงานของตำรวจ พร้อมอโหสิกรรมให้นายจำลอง เนื่องจากถูกดำเนินคดีแล้ว ที่ผ่านมาทราบว่านางสาววาสนา คบกับนายจำลอง ก่อนมาทราบภายหลังว่านายจำลอง มีครอบครัวอยู่แล้ว ทำให้น้องสาวอยากตีตัวออกห่าง

     ด้านนายพงษ์รัตน์ พี่ชายคนรอง เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ทราบว่านางสาว วาสนา น้องสาวมีปัญหากับนายจำลอง แต่ไม่ทราบรายละเอียด และพบว่าน้องสาวเคยถูกนายจำลองข่มขู่ด้วย ส่วนรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ที่นายจำลอง อ้างว่าเป็นของตัวเองเรื่องได้จบไปแล้ว และก่อนเกิดเหตุ 3 วัน น้องสาวได้บอกกับหลานสาวว่าทรัพย์สิน รวมถึงเอกสารสำคัญต่างๆ เก็บไว้ที่ใดบ้าง เหมือนเป็นลางบอกเหตุ

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ