ข่าว

เอาจริง เสนอสั่งปิดร้าน "ขำขำ"ย่านพุทธมณฑลสาย1

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กรมการปกครอง-ทหาร ลุยตรวจผับชื่อดัง "ขำขำ" ริมถนนย่านพุทธมณฑลสาย 1 พบไม่มีใบอนุญาต-ปล่อยให้เยาวชนต่ำกว่า20 ปีเข้ามาใช้บริการร่วม 90 คน เตรียมเสนอสั่งปิด 5 ปี

 

       ที่ร้านขำขำ เลขที่ 88/1 ถนนพุทธมณฑลสาย 1 แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กทม. เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 25 มีนาคม ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง โดยนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการส่วนกำกับ สืบสวนและปราบปราม สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง พร้อมกำลัง จำนวน 80 นาย สนธิทหารโดยมี ร.ท.พิพัฒน์ ทันไกร ผบ.หมวด ที่1 ร้อย รส.ป.9 พัน.9 พร้อมกำลัง จำนวน 5 นาย ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พร้อมกำลัง จำนวน 6 นาย ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบสถานบริการ

      เอาจริง เสนอสั่งปิดร้าน "ขำขำ"ย่านพุทธมณฑลสาย1

    ที่เกิดเกตุเป็นร้านผับแอนด์เรสเตอรองแบบเปิดโล่ง ตั้งโต๊ะไม้เรียงติดกันจำนวนมาก มีลูกค้าชาย-หญิง กำลังเต้นรำอย่างสนุกสนานกับเพลง เจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นทางเข้า-ออก เพื่อทำการตรวจค้นอย่างละเอียด จากการตรวจสอบพบเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ จำนวน 86 คน และมีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 12 คน โดยมีนายกฤษฎา พวงมาลี อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/1 ถนนพุทธมณฑลสาย 1 แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กทม. แสดงตัวเป็นผู้ดูแลร้านจึงคุมจัวไปสอบสวนที่ สน.ภาษีเจริญ

      เอาจริง เสนอสั่งปิดร้าน "ขำขำ"ย่านพุทธมณฑลสาย1

      ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองพบหลักฐานใบทะเบียนพานิชย์ และใบอนุญาตจำหน่ายสุรา ระบุชื่อนางอภิรัตน์ พิมชนก อยู่บ้านเลขที่ 453 ถนนพุทธมณฑลสาย 1 แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กทม เป็นผู้จดทะเบียน นอกจากนี้ยังพบ ยาไอซ์บรรจุซองใส 1 กรัม หลอดดูดตัดสั้น 2 ชิ้น เตาบารากู่ จำนวน 2 เตา พร้อมอุปกรณ์

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างปิดล้อม ตรวจค้นภายในร้าน ปรากฏว่านายชาญ พนักงานเสิรฟ์ ชาวเวียดนาม ได้ปีนขึ้นหลังคาบริเวณโรงครัว แล้ววิ่งบนหลังคาไปยังด้านหลังร้านแล้วกระโดดลงมา เจ้าหน้าที่วิ่งไล่จับกันอย่างอลหม่าน แต่นายชาญกระโดดลงบริเวณกอหญ้าและต้นกล้วยที่มีรั้วลวดหนาม ได้รับบาดเจ็บ จึงถูกเจ้าหน้าที่จับตัวไว้ได้  จากการตรวจสอบพบว่ามีใบอนุญาตถูกต้อง แต่ด้วยความตกใจจึงปีนหนี  เจ้าหน้าที่คุมตัวไปตรวจปัสสาวะที่สน.ภาษีเจริญ

     เอาจริง เสนอสั่งปิดร้าน "ขำขำ"ย่านพุทธมณฑลสาย1

       ด้านนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รอง อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้แฝงตัวเป็นสายลับเข้าทำการตรวจสอบพบว่าร้านขำขำ มีเด็กวัยรุ่นเข้าไปใช้บริการดื่มเหล้า ฟังเพลงและเต้น เป็นจำนวนมากนอกจากนี้ยังพบว่าร้านขำขำ ยังมีการจำหน่ายสุราเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด และยังจำหน่ายสุราให้กับเยาวชนที่เข้าไปเที่ยว จึงเข้าทำการตรวจสอบ

      บื้องต้นได้แจ้งข้อหา จำนวน 7 ข้อหา 1.ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามมาตรา 4 ประกอบมาตรา 26 แห่ง พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 3.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี บริบูรณ์ มีความผิดตามมาตรา 29(1) ประกอบมาตรา 40 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

       4.ส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยวิธีการที่ผิดกฎหมาย(จัดโปรโมชั่น) มีความผิดตามมาตรา 30(3) ประกอบมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 5.โฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีความผิดตามมาตรา 32 ประกอบมาตรา 43 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

       6.ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร มีความผิดตามมาตรา 26(10) ประกอบมาตรา 78 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับเพิ่มเติมข้อหา 7.ขายหรือให้บริการสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเป็นสินค้าที่อาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภคและคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคมีคำสั่งห้ามจำหน่าย และให้บริการ อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาม หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีและจะได้แจ้งให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งปิดร้านขำขำ เป็นเวลา 5 ปี ตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 22/2558 ต่อไป

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ