“หนุ่ม รปภ.”เครียด!ลั่นไกเป่าขมับหวังฆ่าตัวตาย

          เมื่อเวลา 05.40 น. วันที่ 27 ก.พ.60 ร.ต.อ.ยงยุทธ สะเดา รอง สว.(สอบสวน) สภ.ย่อยเมืองเก่า อ.เมืองขอนแก่น รับแจ้งมีเหตุยิงตัวตาย ที่บ้านเลขที่ 106/3 หมู่ 8 บ้านขามเจริญ ซอย 1 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยระหว่างนั้นได้รับแจ้งว่าหลังสิ้นเสียงปืนไม่นาน หน่วยกู้ภัยมูลนิธิจิตกุศลและกู้ชีพสว่างที่ได้รับแจ้งจากแม่ของผู้ลงมือก่อเหตุ ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลขอนแก่นเพื่อช่วยชีวิตแล้ว

          ที่เกิดเหตุภายในบ้านหลังดังกล่าว พบเลือดจำนวนมากกองอยู่บริเวณพื้นบ้าน ใกล้กันพบอาวุธปืนแบบไทยประดิษฐ์ขนาด .38 และกระสุนปืนขนาด .38 ที่ยังไม่ได้ใช้งานจำนวน 1 นัดตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บหน่วยกู้ชีพ กู้ภัยได้นำตัวส่งโรงพยาบาลขอนแก่นเพื่อช่วยชีวิตเนื่องจากชีพจรอ่อนอ่อนแรง ซึ่งทราบชื่อภายหลังคือ นายอมต อมรบดินทร์ อายุ 31 ปี อาชีพเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับโครงการหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นผู้ลงมือลั่นไกใส่ศรีษะของตนเอง จากการตรวจสอบทราบว่า ผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนดังกล่าวจ่อยิงเข้าที่บริเวณศรีษะของตนเอง โดยกระสุนปืนเจาะเข้าที่บริเวณขมับขวาทะลุขมับซ้าย เบื้องต้นยังไม่เสียชีวิต แต่อาการยังสาหัส

          จากการสอบสวนนางอนันต์ธีรา วิโรจน์รัตน์ อายุ 56 ปี แม่ของนายอมต ผู้ก่อเหตุทราบว่า อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้กับลูกชายเพียง 2 คน ซึ่งลูกชายมีอาการป่วยทางจิตมากว่า 3 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้เคยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลขอนแก่นและหมอได้ให้ยามาทาน ทำให้อาการที่ผ่านมาเป็นปกติดี สามารถทำงานได้ ซึ่งได้สมัครเป็น รปภ.อยู่ที่โครงการหมู่บ้านจัดสรรค์แห่งหนึ่งในจังขอนแก่น โดยจะเข้าเวรในช่วงกลางวัน และกลับเข้าบ้านในช่วงเย็น ซึ่งสาเหตุในการลงมือยิงตัวเองในครั้งนี้ คาดว่าเกิดจากการไม่ได้ทานยารักษาอาการป่วยตามที่หมอสั่งติดต่อกันหลายวัน จึงทำให้เกิดความเครียดและมีอาการกระวนกระวาย โดยในคืนเกิดเหตุลูกชายยังได้ขึ้นไปนอนอยู่กับแม่ ซึ่งก็พบว่ามีอาการผิดปกติ กระทั่งในเวลาประมาณ 05.20 น.ก่อนรุ่งเช้า ลูกชายได้ลุกออกมาอยู่ที่บริเวณห้องภายในบ้าน ก่อนที่เสียงปืนจะดังขึ้น 1 นัด เมื่อตนวิ่งออกมาดูก็พบว่าลูกชายนอนจมกองเลือดอยู่บริเวณพื้นบ้าน จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาช่วยเหลือและนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อช่วยชีวิต เบื้องต้นอาการยังสาหัส ส่วนอาวุธปืนนั้นตนไม่ทราบว่าลูกชายไปนำมาจากที่ใดและตนก็ไม่เคยเห็นมาก่อน

          อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องรอให้ผู้ก่อเหตุรู้สึกตัวและอาการดีขึ้นก่อน จึงจะสามารถสอบปากคำได้ โดยเบื้องต้นจะทำการตรวจพิสูจน์ว่าการลงมือก่อเหตุในครั้งนี้เป็นการยิงตัวเองหรือเป็นการถูกทำร้าย โดยจะให้ผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจคราบเขม่าดินปืนที่มือ เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป