สตช.ขีดเส้นตาย 26 ก.พ.ขึ้นทะเบียน รปภ.ฝ่าฝืนเจอโทษจำคุก-ปรับ ย้ำยกระดับธุรกิจรักษาความปลอดภัยให้เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานทั่วประเทศ
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 พล.ต.อ.สุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษา สบ 10 เรียกประชุมนายตำรวจระดับผู้บังคับการตำรวจภูธร 76 จังหวัดและผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1-9 รวม 400 นาย เพื่อทำความเข้าใจ พ.ร.บ.ธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ.2558 ตาม คำสั่ง คสช.ที่ 67/2559 ลงวันที่ 10 พ.ย. 2559 กรณีต่อทะเบียนใบอนุญาตอาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัย และเจ้าของธุรกิจรักษาความปลอดภัยที่ต้องยื่นความประสงค์ขอรับใบอนุญาตต่อนายทะเบียนจังหวัด ณ ที่ทำการกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดทุกพื้นที่ในวันที่ 26 ก.พ.นี้
พล.ต.อ.สุวิระ ชี้แจงว่า เป็นการทำความเข้าใจอำนาจหน้าที่ และการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ดังกล่าวให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันตามที่ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับธุรกิจรักษาความปลอดภัย เพื่อยกระดับมาตรฐานธุรกิจรักษาความปลอดภัยและมาตรฐานพนักงานรักษาความปลอดภัยให้มีเกิดประโยชน์แก่ผู้ใช้บริการสูงสุด
" นับถอยหลังอีก 6 วันจากนี้วันที่ 26 ก.พ.ขีดเส้นตาย ต้องแจ้งความประสงค์ในพื้นที่ของตัวเอง หากพ้นกำหนดจะไม่ได้รับความคุ้มครองตามบทเฉพาะกาล คำสั่ง คสช.ที่ 67/2559 ลงวันที่ 10 พ.ย. 2559 มีโทษตาม พ.ร.บ.ธุรกิจรักษาความปลอดภัยฯ ผู้ใดทำหน้าที่เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ใดประกอบธุรกิจรักษาความปลอดภัยโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุก ไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" พล.ต.อ.สุวิระ กล่าว
พล.ต.อ.สุวิระ กล่าวด้วยว่า หลังจากขึ้นทะเบียนแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเรียกผู้ปฏิบัติหน้าที่รปภ.ฝึกอบรบความรู้ข้อกฎหมายและการ ปฏิบัติรับมือเหตุฉุกเฉิน การปฐมพยายาล ยุทธวิธีตำรวจ การจัดการจราจร เป็นเวลา 40 ชั่วโมง เพื่อให้จบหลักสูตรการฝึกอบรมนี้แล้ว รปภ.ทั่วประเทศก็จะเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน สำหรับเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งจะมีคนคอยสอดส่องดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนเพิ่มขึ้นอีกหลายแสนคนทั่วประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง