เก๋งซิ่งสยองชนทัวร์ ดับ 2 เจ็บสาหัส 1

               
               เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 20 ก.พ.60 ร.ต.อ.ชัยพร พรมเสนา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งเหตุรถเก๋งเสียหลักเแหกโค้งพุ่งชนกับรถทัวร์โดยสารที่มาจอดข้างทาง ช่วงริมถนนหมายเลข 201 ชัยภูมิ-สีคิ้ว มุ่งหน้าออกจากตัวเมืองชัยภูมิ บริเวณหน้าบริษัท ขนส่ง จำกัด (บ้านหนองสังข์) ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ มีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บติดภายใน จึงรีบรุดไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวรและเจ้าหน้าที่ชุดอุปกรณ์ตัดถ่างมูลนิธิสว่างคุณธรรมชัยภูมิ
               ในที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งยี่ห้อซูบารุ สีขาว ป้ายทะเบียน 1288 กรุงเทพมหานคร อยู่ในสภาพด้านหน้าพังยับเยินอัดก็อบปี้กับรถทัวร์โดยสาร ภายในรถยังพบชาย 1 ราย ถูกหลังคารถบีบอัด สภาพร่างหมอบพับ คอหัก เสียชีวิตติดคาพวงมาลัย เจ้าหน้าที่จึงเร่งใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากซากรถดังกล่าว ทราบชื่อต่อมาคือ นายทฤษฎ์ ชวาฤทธิ์ อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 25/1 หมู่ที่ 7 ต.หนองนาแซง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ
               ใกล้กันพบรถทัวร์ ยี่ห้อเบ็น สีน้ำเงิน-เทา เป็นรถทัวร์โดยสาร สายกรุงเทพ-วังสะพุง-ภูหลวง หมายเลขข้างรถ ม.2/29-1188 ป้ายทะเบียน 12-3444 กรุงเทพฯ ซึ่งมีผู้โดยสารอยู่บนรถ จำนวน 23 คน ตรวจสอบเบื้องต้น เป็นรถทัวร์ของบริษัท ขนส่ง จำกัด มี นายโชคชัย แสนอยกุล อายุ 36 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ขับรถทัวร์โดยสารคันดังกล่าว บาดเจ็บสาหัส นอนอยู่บนกองเลือด ซึ่งโดนรถเก๋งพุ่งชนขณะลงมาดื่มกาแฟ เจ้าหน้าที่จึงเร่งปฐมพยาบาลและให้การช่วยเหลือนำส่ง รพ.ชัยภูมิ เป็นการด่วน
               ห่างออกไปอีกประมาณ 200 เมตร พบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.พัทธนันท์ จสุธนพิทักษ์ อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 50/2424 ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เป็นนายสถานีท่ารถทัวร์ ที่ลงมาประทับเวลาที่สถานีดังกล่าว ถูกรถเก๋งชนกระเด็นไปไกลเกือบ 200 เมตร เสียชีวิตคาที่
               จากการสอบถามพยานผู้เห็นเหตุการณ์เบื้องต้น คือ นายสาธิต น้อยเหน่ อายุ 38 ปี ทราบว่า ขณะที่ตนกับเพื่อนนั่งดูถ่ายทอดสดฟุตบอลอยู่ฝั่งตึกตรงข้าม ได้ยินเสียงท่อรถดังมาแต่ไกลและเห็นรถเก๋งคันดังกล่าวขับออกมาจากตัวเมืองชัยภูมิด้วยความเร็ว พอมาถึงโค้งที่เกิดเหตุก่อนออกจากตัวเมือง รถก็พุ่งเข้าชนคนและรถทัวร์ที่จอดอยู่โดยไม่มีการผ่อนคันเร่ง ซึ่งน่าจะขับมาด้วยความเร็วจนควบคุมรถไม่อยู่ จึงแหกโค้งไปชนคนและรถโดยสารที่มาจาก กทม. ครั้งนี้เข้าอย่างจัง ขณะที่คนขับและนายตรวจประจำสถานีลงมาประทับตราบริษัท แล้วจะนำผู้โดยสารไปส่งต่อที่จุดหมายปลายทาง แต่ก็เกิดเหตุสยองขึ้นดังกล่าวก่อน
               ด้าน ร.ต.อ.ชัยพร กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อประกอบคดีดังกล่าวว่าเกิดจากสาเหตุอะไรเพิ่มเติมที่แน่ชัดอีกครั้ง ก่อนจะเร่งจะรวบรวมพยานหลักฐานจากเลือดของคนขับรถเก๋งที่เสียชีวิตในครั้งนี้ด้วย เพื่อหาสารเสพติดและปริมาณแอลกอฮอล์ว่ามีหรือไม่เพิ่มเติมต่อไป ส่วนร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายนั้น เจ้าหน้าที่ได้ประสานญาติเพื่อมารับร่างผู้เสียชีวิตไปดำเนินการทางศาสนาต่อไป