ข่าว

รวบยกแก๊ง!!ปล้นบ้านฝรั่งจับมัดมือมัดเท้าทำร้ายร่างกาย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รวบยกแก๊ง ตระเวนปล่นบ้านหญิงไทยที่มีสามีชาวต่างชาติ มัดมือมัดเท้าก่อนกวาดทรัพย์สินหนี หน.แก๊งอ้างหาเงินเลี้ยงเมีย 2 คน และไปปล่อยกู้แต่ติดการพนันจึงหยุดไม่ได้

 

          เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 ก.พ.60 ที่หน้า สภ.เมืองอุดรธานี พล.ต.ท.จตุพล ปานรักษา ผบช.ภ.4 , พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รอง ผบช.ภ.4 , พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 , พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบก.สส.ภ.4 , พ.ต.อ.เนติพงศ์ ธาตุทำเล พ.ต.อ.ชวิศ ศรีจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี , พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี , พ.ต.ท.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.4 , พ.ต.ต.ศัลย์ พินิจวัฒนา สว. สส.1 บก.สส.ภ.4 ร่วมกันแถลงข่าวจับแก๊งปล้นบ้านฝรั่งจับมัดมือมัดเท้าทำร้ายร่างกาย ในเขต จ.อุดรธานี

          ประกอบด้วย นายทัศนะ บุญพุ่มพวง อายุ 37 ปี อยู่ที่ 36/16 ถนนบ้านเหล่า เทศบาลนครอุดรธานี , นายจิตรกร บุญพุ่มพวง อายุ 29 ปี อยู่ที่ 36/4 ถนนบ้านเหล่า เทศบาลนครอุดรธานี , นายสภาพร มุสิกาบุญเลิศ อายุ 40 ปี อยู่ที่ 209 หมู่ 3 ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี , นายสุรชัย แก้วพิลา อายุ 24 ปี อยู่ที่ 310/1 หมู่ 7 ต.หมูม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี และ น.ส.พัชร์มณฑ์ ลี้พงษ์กุล อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 448/2 หมู่ 5 ซอยบ้านหนองเตาเหล็ก เทศบาลนครอุดรธานี โดยกล่าวหา “ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธ โดยแสดงความทารุณจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายหรือจิตใจ”

          พร้อมของกลาง นาฬิกาข้อมือแบบชาย ยี่ห้อแท็กฮอยเออร์ โรเล็กซ์ เฟสทินา คาร์เทีย กีลาโรช รวม 5 เรือน แบบหญิง 1 เรือน งาช้างความยาว 9 นิ้ว 2 กิ่ง จี้พลอยสีเขียว 1 ชิ้น เหรียญที่ระลึก ร.5 กรรไกรตัดเหล็ก 1 อัน เหล็กงัดยาง 2 อัน ไขควง 1 อัน คัตเตอร์ 1 อัน ดิ้ว 1 อัน หมวกโหม่งผ้าสีดำ 1 อัน ถุงมือสีดำ 1 คู่ ถุงแขนสีดำ 1 คู่ สายรัดเทเบิลไท 50 อัน ใบสัญญาฝากขายโน้ตบุ๊ค 1 แผ่น บัตรจำนำแหวน 1 แผ่น โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง รถยนต์เก๋ง มาสด้า 2 สีขาว หมายเลขทะเบียน กย-9849-อุดรธานี

          พล.ต.ท.จตุพล ปานรักษา ผบช.ภ.4 เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อ 17.30 น. วันที่ 17 ธันวาคม 2559 เกิดเหตุคนร้ายบุกเข้ปล้นทรัพย์ ที่บ้านเลขที่ 256 หมู่ 11 บ้านนาหวาน ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี พบนางจุฑาภรณ์ มอริส อายุ 45 ปี และนายจอห์น เดวิส มอริส อายุ 64 ปี สามีชาวอังกฤษ ถูกคนร้ายเป็นชาย 2 คน สวมไอ้โม่งบุกเข้ามาทางหลังบ้าน เตะนางจุฑาภรณ์ฯ จนซี่โครงหัก ก่อนจะจับทั้งคู่มัดมือด้วยเทปกาว แล้วกวาดทรัพย์สินไปหลายรายการ รวมมูลค่าประมาณ 2 แสนบาท โดยมีคนร้ายอีก 1 คน ขับรถเก๋งสีขาวมารับหลบหนีไป

          ต่อมาคนร้ายได้ก่อเหตุรายที่ 2 วันที่ 28 ธันวาคม 2559 เวลา 19.30 น. โดยบุกเข้าไปในบ้านเลขที่ 99/220 หมู่ 16 หมู่บ้านสุขเกษม ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.รัศมี เหลืองอร่าม อายุ 46 ปี ที่มีสามีเป็นชาวเยอรมัน คนร้ายกวาดเอาทรัพย์สินประมาณ 1 แสนบาท โดยมีคนร้ายขี่รถเก๋งสีขาวมารับหลบหนี และรายที่ 3 วันที่ 19 มกราคม 2560 ได้ใช้อาวุธปืนปลอมบุกเข้าปล้นทรัพย์บ้านเลขที่ 370 หมู่ 1 ต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้าน น.ส.สุภาพร พันธ์ชิต อายุ 32 ปี และ Mr.Beat Flory อายุ 62 ปี สามีชาวสวิตเซอร์แลนด์ อดีตนายทหารนอกราชการ ซึ่งรู้ว่าเป็นปืนปลอม และได้ต่อสู้จนถูกคนร้ายใช้เหล็กงัดยางตีศีรษะเย็บกว่า 100 เข็ม ส่วนภรรยาได้เข้าช่วยสามีถูกตีมือจนกระดูกแตก ก่อนกวาดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 60,000 บาท ขึ้นรถเก๋งสีขาวหลบหนีไป

          จากการสืบสวนสอบสวน ได้พบรถเก๋งสีขาวต้องสงสัย และมีพลเมืองดีซึ่งอยู่บ้านใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ได้ถ่ายรูปรถเก๋งของคนร้ายไว้ได้ จนทราบว่า รถเก๋งสีขาวเป็นรถของนายทัศนะ จึงออกสืบสวนหาตัว และพบนายทัศนะเช่าบ้านหลบซ่อนตัวอยู่กับ น.ส.พัชร์มณฑ์ ภรรยาใหม่ บริเวณหลังตลาดโบ๊เบ๊ ถนนรอบเมือง เทศบาลตำบลหนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงเข้าจับกุมได้พร้อมของกลาง และอุปกรณ์ที่ใช้ก่อเหตุ ที่ซุกซ่อนไว้ในหีบไม้ พร้อมรถเก๋ง ยี่ห้อมาสด้า 2 สีขาว และทรัพย์สินที่ปล้นมาได้ที่ยังหลงเหลือบางส่วน ควบคุมตัวไปสอบสวน พร้อมกับติดตามจับกุมเพื่อนร่วมแก๊งได้ทั้งหมด

          พล.ต.ท.จตุพล เปิดเผยอีกว่า นายทัศนะ ให้การรับสารภาพว่า ได้ตั้งแก๊งปล้นบ้านฝรั่งจริง เพราะเดิมได้ทำธุรกิจปล่อยเงินกู้ขาดทุน อีกทั้งต้องเลี้ยงเมีย 2 คน ลูก 3 คน ส่วนสาเหตุที่ทำธุรกิจขาดทุน เพราะติดการพนันและติดผู้หญิง เมื่อเงินหมดไปขอยืมจากญาติมาลงทุน ก็ไม่มีใครให้ยืม จึงชักชวนนายจิตรกร ซึ่งเป็นญาติ นายสุภาพร นายสุรชัย ซึ่งเป็นคนรู้จักกัน และ น.ส.พัชร์มณฑ์ ภรรยาคนล่าสุด ไปปล้นบ้านฝรั่ง โดยผู้ชายทำหน้าที่เข้าไปปล้น ส่วน น.ส.พัชร์มณฑ์ ทำหน้าที่เป็นคนขับรถมาส่งและลับหลังปล้นเสร็จแล้ว

          หลังจากได้ทรัพย์สินจะแบ่งให้เพื่อนร่วมแก๊งคนละ 1,000 - 8,000 บาท ที่เหลือจะเก็บไว้ และคิดว่าเมื่อปล้นจนมีเงินทุน 2-3 แสน ก็จะเลิกปล้น แล้วหันไปทำธุรกิจปล่อยเงินกู้อีก แต่เมื่อมีเงินก็ไปเล่นการพนันอีก จึงต้องออกปล้นอีก โดยจะก่อเหตุกับบ้านที่มีชาวต่างประเทศ เพราะคิดว่าต้องมีทรัพย์สินจำนวนมาก ส่วนที่ทำร้ายร่างกาย นาทัศนะ บอกว่า ไม่คิดจะทำร้ายร่างกาย เพียงแค่ต้องการจับมัดค้นเอาทรัพย์สินเท่านั้น แต่เมื่อต่อสู้ จึงต้องทำร้ายร่างกายเพื่อให้หยุดร้องเท่านั้น

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ