ข่าว

‘เบนซ์’ยันไม่เกี่ยวข้องเครือข่าย‘ไซซะนะ’

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

มาตามนัด !! ‘เบนซ์ เรซซิ่ง’ หอบหลักฐานเข้าพบตำรวจปราบปรามยาเสพติดรอบ 2 แจงที่มาลัมโบร์กีนี-ทรัพย์สินอื่น ยันไม่เกี่ยวข้องกับเครือข่าย ‘ไซซะนะ’

 

         จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ในวันนี้ (16 ก.พ.)นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง สามีดาราสาว "แพท" ณปภา ตันตระกูล จะเดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด(ปส.) เพื่อนำข้อมูลและหลักฐานเกี่ยวกับการครอบครองรถหรูยี่ห้อลัมโบร์กินี และที่มาของทรัพย์สินอื่น ๆ มาทำการชี้แจง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

‘เบนซ์’ยันไม่เกี่ยวข้องเครือข่าย‘ไซซะนะ’

 

         ล่าสุดเมื่อเวลา 16.40 น. วันนี้(16 ก.พ.60) นายอัครกิตติ์ หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง พร้อมด้วยมารดา และทนายความ ได้เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(ปส.) เพื่อนำเอกสารหลักฐานต่าง ๆ เข้าชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่รอทำข่าว

 

‘เบนซ์’ยันไม่เกี่ยวข้องเครือข่าย‘ไซซะนะ’

 

         ทางด้านนายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้เตรียมที่จะเข้าไปสอบปากคำ นายณัฐพล นาคคำ หรือบอย เพิ่มเติม ภายในเรือนจำ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการสอบปากคำภายในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้หลังจากสอบปากคำทั้ง 2 คนหากพบว่ามีความเชื่อมโยงด้านการเงินเกี่ยวกับเครือข่ายนายไซซะนะ แก้วพิมพา นักค้ายาเสพติดชาวลาว ก็อาจจะพิจารณาแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป

 

‘เบนซ์’ยันไม่เกี่ยวข้องเครือข่าย‘ไซซะนะ’

 

         ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 18.16 น. วันที่ 16 ก.พ.60 ภายหลังจากเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจนานกว่า 3 ชั่วโมง นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง เจ้าของร้าน AREA 51 พร้อมมารดา และทนายความ ได้เดินทางกลับ โดยนายอัครกิตติ์ กล่าวว่า วันนี้ที่มาพบเจ้าหน้าที่ ตนไม่ได้มีหมายเรียกแต่อย่างใด เพียงแต่เดินทางมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ และนำเอกสารมามอบให้เจ้าหน้าที่เพิ่มเติมหลายอย่าง อาทิ เอกสารการกู้ยืมเงินจากไฟแนนซ์ เอกสารที่มาที่ไปของรถลัมโบร์กินี สำหรับเรื่องเงิน 6 ล้านตนได้ให้ข้อชี้แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้วต้องรอสรุปอีกครั้ง กรณีที่มีการเสนอข่าวว่าทางร้าน Area 51 นั้น มีการขาดทุนมา 3 ปีนั้น ขอให้รอข้อเท็จจริงจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดีกว่า ทั้งนี้ยืนยันว่าตนไม่ได้นำเงินของนายไซซะนะ มาใช้ในการซื้อรถลัมโบร์กินี เงินที่นำมาซื้อมาจากการประกอบกิจการของตนเอง สำหรับการเข้าให้ปากคำในวันนี้ค่อนข้างจะชัดเจนขึ้น เพราะได้มีการนำเอกสารสำคัญมาให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

 

‘เบนซ์’ยันไม่เกี่ยวข้องเครือข่าย‘ไซซะนะ’

 

         นายอัครกิตติ์ กล่าวต่ออีกว่า ส่วนกรณีที่นายธนพล ได้เข้าให้ปากคำและซัดทอดมายังตนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับนายไซซะนะนั้น ตนไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรแต่ได้นำหลักฐานมาแสดงให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นยังไม่มีการออกหมายเรียกใด ๆ พร้อมทั้งไม่มีการแจ้งข้อหา และหากมีหลักฐานเพิ่มเติมจะนำมามอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

 

‘เบนซ์’ยันไม่เกี่ยวข้องเครือข่าย‘ไซซะนะ’

 

 

ตร.เร่งตรวจความสัมพันธ์ทางธุรกรรม ‘เบนซ์-บอย’
    
         16 ก.พ.60 พ.ต.อ.สมเกียรติ วรรณสิริวิไล รอง ผบก.อก.บช.ปส. ในฐานะผู้ช่วย โฆษก ปส. เปิดเผยว่า วันนี้นายเบนซ์ มาพบพนักงานสอบสวน ให้การเป็นประโยชน์อย่างมาก โดยนำเอกสาร 26 ชุด จำนวน 150 หน้า มามอบ เป็นหลักฐาน ซึ่งเป็นเอกสารเกี่ยวกับแหล่งที่มาของเงินที่ใช้ในเรื่องของธุรกิจ รายได้เสริมที่ประกอบธุรกิจ ไปจนถึงรายการต่างๆ เช่น การสั่งซื้อสินค้า เอกสารสัญญาต่างๆ เกี่ยวกับการโอนหรือซื้อขายรถยนต์ ซึ่งพนักงานสอบสวนรวบรวมไว้เพื่อเป็นหลักฐานชั่งน้ำหนักประกอบคำให้การ แต่ตอนนี้รอธุรกรรมการเงินจากธนาคารต่างๆ เพื่อมาสรุปความสัมพันธ์ในแต่ละส่วน และให้คณะพนักงานสอบสวนตัดสินใจอีกครั้งในสัปดาห์หน้า สำหรับเอกสารที่นายเบนซ์ นำมามอบถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะบอกว่าเคลียร์ทุกประเด็นชัดเจนแล้ว  แต่ตำรวจก็ต้องตรวจสอบว่าสัมพันธ์ต่างๆ นั้น สอดคล้องตรงกับคำให้การหรือไม่

         พ.ต.อ.สมเกียรติ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่มีข้อสงสัยว่ารายได้นายเบนซ์ ไม่น่าจะมีจำนวนมากเพียงพอที่จะซื้อรถได้นั้น ทางตำรวจยังไม่ได้ลงลึกถึงขั้นว่า นายเบนซ์ มีกำไรหรือขาดทุนในธุรกิจเท่าใด ตนจึงขออนุญาตให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่า รายละเอียดการให้ข้อมูลในส่วนใดบ้างของนายเบนซ์ ที่ไม่ตรงกับข้อมูลที่ชุดสืบสวนมี เนื่องจากต้องกลับไปตรวจสอบเอกสารกว่า 150 หน้าให้ครบถ้วนเสียก่อน เพราะนายเบนซ์อ้างว่าไปกู้เงินไฟแนนซ์มา ซึ่งไฟแนนซ์ไปกู้ธนาคารมาอีกต่อ โดยต้องไปดูว่ากู้ไปทำอะไร ใช้ส่วนไหน ส่งให้ใคร แต่เบื้องต้นทราบว่านายเบนซ์นำเอกสารที่กู้จากไฟแนนซ์มาให้แล้ว แต่เอกสารที่ไฟแนนซ์ไปกู้จากธนาคารอีกต่อหนึ่งนั้น ทางตำรวจจะต้องเป็นผู้ติดตามขอข้อมูลจากธนาคารเอง ในส่วนของกรณีว่าก่อนหน้านี้มีรถคันอื่นๆ ที่นายเบนซ์กู้ไฟเเนนซ์หรือไม่นั้น ตนยังตอบไม่ได้

         พ.ต.อ.สมเกียรติ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ในส่วนอื่นๆ ที่เป็นความเห็นทางคดีตนไม่สามารถตอบได้ และสำนวนคดีนั้นเหลือในเรื่องธุรกรรมทางการเงินที่รอจากธนาคารและด้านความสัมพันธ์ทางการเงินต่างๆ ที่ชี้วัดว่าเกี่ยวพันกันอย่างไรกับนายบอยที่ถูกจับกุมไปแล้ว ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้การส่งข้อมูลทางธุรกรรมของนายเบนซ์มายังพนักงานสอบสวนล่าช้านั้นเป็นเพราะนายเบนซ์มีหลายบัญชี ซึ่งหากหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงใครก็จะเชิญมาให้ปากคำ แต่ยืนยันว่าขณะนี้นายเบนซ์ยังไม่ใช่ผู้ต้องหา จึงมีสิทธิที่จะยื่นเอกสารให้กับพนักงานสอบสวนได้เสมอ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังรับเอกสารในส่วนธุรกิจ รวมไปถึงสัญญา ซื้อขาย กู้ยืม ทุกอย่าง เป็นส่วนสำคัญในการประกอบสำนวน หลังจากนี้อาจจะต้องเชิญนายเบนซ์มาพบอีก เนื่องจากมีทรัพย์ส่วนหนึ่งที่โดนอายัดไว้ เป็นส่วนของ ป.ป.ส. ทั้งนี้สำหรับยุทธการครั้งต่อไปนั้น ไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากต้องรอการรวบรวมข้อมูลและรายละเอียด หากพร้อมหรือพบผู้กระทำความผิดก็จะดำเนินการทันที

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ