‘รองผบ.ตร.’แถลงจับหนุ่มขนยาบ้า4หมื่นเม็ด

 

          ที่สน.สายไหม เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 มกราคม 2560 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญลักษณ์ ผบก.น.2,พ.ต.อ.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ รอง ผบก.น.2, พ.ต.อ.ธนกรณฑ์ ก้อนแก้ว ผกก.สน.สายไหม ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายนคร อยู่สุข หรือบอส อายุ 25 ปี ซึ่งชุดสืบสวนสามารถจับกุมได้ที่ปากซอยเพิ่มสิน11 ถนนเพิ่มสิน แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 4 หมื่นเม็ด มูลค่า 6 ล้านบาท โทรศัพท์ 1 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ 1 คัน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย

 

 

          พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า จากการสอบปากคำต้องหายอมรับว่า ยาบ้าจำนวนดังกล่าวรับมาจากชายไทยไม่ทราบชื่อ บริเวณถนนวัชรพลตัดใหม่ โดยผู้ต้องหายอมรับว่าทำมาแล้ว10 กว่าครั้ง ครั้งนี้ขนยาจำนวนมากที่สุด โดยจะมีคนโทรสั่ง และจะนำยาบ้าไปวางตามริมถนนข้างทางและมีลูกค้ามารับ และได้รับค่าจ้างมัดละ 3,000 บาท ก่อนจะนำยาบ้าไปให้ลูกค้าจะนำไปเก็บไว้ที่บ้านเช่าของผู้ต้องหาเองภายในซอยพหลโยธิน 54 แขวงคลองถนน เขตสายไหม หลังจากนั้นก็จะส่งยาไปตามชุมชนต่างๆ ทั้งนี้ก่อนการจับกุม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมาก เข้ามาในพื้นที่ สน.สายไหม โดยใช้เส้นทางถนนเพิ่มสินในการลำเลียง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและร่วมกันวางแผนประกอบกำลังหลายฝ่าย ทั้งตั้งจุดตรวจ จุดสกัดกั้นยาเสพติด ต่อมาวันที่ 19 มกราคม 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด เวลา 23.55 น. และได้พบกับนายนคร ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 100 สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ปลต 842 กรุงเทพ ผ่านบริเวณดังกล่าว และมีท่าทางพิรุธ ตรงตามที่สายลับแจ้ง จึงเรียกตรวจค้น และพบยาบ้าเังกล่าวในกระเป๋าสะพายข้าง

 

 

          อย่างไรก็ตาม จากสถิติผลการจับกุมยาเสพติดของ บก.น.2 ปีงบประมาณ 2560 มีจำนวน ทั้งสิ้น 2,012 คดี ผู้ต้องหา 2,052 คน ของกลางยาบ้า ประมาณ 300,000 เม็ด คิดเป็นมูลค่ากว่า 45 ล้านบาท

 

เร่งขยายผล-ยึดทรัพย์เครือข่าย ‘ไซซะนะ’ แก๊งยาบ้ารายใหญ่ ระบุเชื่อมโยง 3 เครือข่ายใหญ่ในพื้นที่ภาคเหนือและอีสาน

          21 มกราคม 2560 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม กล่าวถึงการสืบสวน ขยายผล หลังตำรวจปราบปรามยาเสพติด จับกุม นายไซซะนะ แก้วพิมพา อายุ 42 ปี สัญญาติลาว พร้อมพวกอีก3คน เครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่19 มกราคม ที่ผ่านมา ว่า สำหรับกรณีนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ป.ป.ง.) สำนักงานตำรวจคนเข้าเมือง(สตม.) ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันสืบสวนขยายผลว่า ใครให้การสนับสนุน ซึ่งเมื่อวานนี้(20 ม.ค.) ได้มีการยึดทรัพย์กว่า100ล้าน จากการสืบสวนทราบว่ากลุ่มดังกล่าวเป็นผู้ต้องหาเป็นรายใหญ่ มีเครือข่ายจำนวนมาก ซึ่งเจ้าที่ออกหมายจับแล้ว 9 ราย สามารถจับกุมได้4ราย ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับเครือข่าย3กลุ่มใหญ่ ทั้งภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ตอนนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขยายผล และยังไม่มีการออกหมายจับเพิ่ม                                             

          รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า การปราบปรามยาเสพติดเป็นนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ รมว.กลาโหม ที่ต้องปราบปรามให้หมดสิ้น ต้องขยายผลไห้ได้ว่าใครอยู่เบื่องหลัง โดยเครือข่ายยาเสพติดที่มีในประเทศไทยมีทั้งหมดกว่า 50 เครือข่าย ดังนั้นแนวทางของตำรวจคือการตัดเครือข่ายเหล่านี้น้อยลงไปเรื่อยๆ