ข่าว

รวบ 2 ผัวเมีย'แก๊งคอลเซ็นเตอร์'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กรองปราบรวบ 2 ผัวเมียจอมแสบ ร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรหลอกเหยื่อโอนเงิน

               ที่กองบังคับการปราบปราม เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 ม.ค.60 พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. มอบหมายให้ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ต.กรกช ยงยืน สว.กก.2 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.2 บก.ป. ร่วมกันทำการจับกุม นายเอกลักษณ์ กระแตเซ็ง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/1 ม.20 แขวงและเขตมีนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ จ.287/2559 ลงวันที่ 30 มี.ค.59 ในข้อหา “ยักยอก” และน.ส.สุวิมล ลิ้มรสธรรม อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 188/45 ม.1 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี สองสามีภรรยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกำแพงเพชร ที่ จ.237/2554 ลงวันที่ 5 ส.ค.54 ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์” โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ บริเวณหน้าหอพัก เอสพีแมนชั่น เลขที่ 1/5 ม.3 ต.บางขุนทอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
               ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อประมาณ ปี 2554 น.ส.สุวิมล ร่วมกับพวกซึ่งถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ มีพฤติกรรมตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์สุ่มโทรศัพท์ติดต่อไปยังผู้เสียหาย ก่อนจะอ้างตนเองว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารต่างๆ และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ จากนั้นก็จะออกอุบายหลอกผู้เสียหายว่าผู้เสียหายเป็นหนี้บัตรเครดิต มีข้อมูลทางการเงินผิดปกติขอทำการตรวจสอบข้อมูลทางการเงินโดยด่วน พร้อมกับบังคับให้ผู้เสียหายทำตามขั้นตอนที่ตนเองสั่ง โดยการให้ผู้เสียหายเดินไปที่ตู้เอทีเอ็มจากนั้นก็จะหลอกเหยื่อให้ทำธุรกรรมการเงินที่ตู้เอทีเอ็มเป็น “เมนูภาษาอังกฤษ” โดยแจ้งว่า ทำเพื่อล้างรายการหนี้สิน หรืออาจหลอกให้เหยื่อโอนเงินให้หน่วยงานภาครัฐเพื่อตรวจสอบ กว่าที่เหยื่อจะรู้ตัวว่าถูกหลอก เงินในบัญชีก็ถูกโอนเข้าบัญชีผู้ต้องหากลุ่มนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

               อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากทราบเรื่อง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ลงพื้นที่สืบหาเบาะแสจนทราบว่า น.ส.สุวิมล หลบหนีมากบดานซ่อนตัวอยู่ในแมนชั่นดังกล่าว จึงนำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์ ก่อนพบตัวน.ส.สุวิมล พักอาศัยอยู่กับนายเอกลักษณ์ สามี เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าทำการควบคุมตัว พร้อมกับทำการตรวจสอบประวัติของนายเอกลักษณ์ จึงพบว่ามีหมายจับในคดียักยอก ติดตัว จึงควบคุมตัวสองสามีภรรยาผู้ต้องหาตามหมายจับคู่นี้มาทำการสอบสวน
               เบื้องต้นจากการสอบสวนสองสามีภรรยาคู่นี้ยังคงให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติของ น.ส.สุวิมล พบว่า เคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายพื้นที่ พร้อมทั้งมีหมายจับในคดีลักษณะดังกล่าวติดตัวอยู่ในพื้นที่ จ.สงขลา อีกหนึ่งคดี รวมมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจาก น.ส.สุวิมล กว่า 7 แสนบาท เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร เจ้าของคดีดำเนินการต่อไป

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ