ข่าว

รวบ'แก๊งตุ๋นฝากเป็นทหาร' เหยื่อสูญ 1.43 ลบ.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กองปราบรวบ 2 สมาชิกแก๊งตุ๋นเงินฝากเป็นทหาร สูญ 1.43 ล้าน ล่าอีก 7 คน ทำเนียนแต่งทหารประดับยศในโรงแรม

               เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 17 ม.ค.60 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.6 บก.ป. พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ธราดล เหมพัฒน์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.6 บก.ป. พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล สว.กก.6 บก.ป.นำกำลัง พร้อมหมายศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 30-33/2560 ลงวันที่ 16 มกราคม 2560 เข้าตรวจค้นจับกุม นายธนินพัฒน์ จันทร์เรือง อายุ 31 ปี, น.ส.พนิดา มหรรฆตระกูล อายุ 36 ปี และ นายวัฒนา เพ็ชรปัญญา อายุ 35 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2042-44/2560 ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2559 ตามลำดับ ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดย จับกุมนายธนินพัฒน์ ได้ที่บ้านเลขที่ 9/32 ซอยสถิตยุทธการ 4 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ส่วน น.ส.พนิดา จับกุมได้ที่ บ้านเลขที่ 39/294 หมู่บ้านสิริกานต์ ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ขณะที่ นายวัฒนา จับกุมตัวที่บ้านเลขที่ 71/391 หมู่ 4 หมู่บ้านพฤกษา ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่

               ทั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้มีกลุ่มผู้เสียหายซึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด รวม 5 คน ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป.เพื่อให้ดำเนินคดีกับ น.ส.เสาวนีย์ กับพวก รวม 9 คน ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ภายหลังทั้งหมดอ้างว่ามีโควต้าสามารถช่วยเหลือบุคคลที่ต้องการเข้ารับราชการทหารได้ โดยไม่ต้องสอบบรรจุ และมีการจัดพิธีประดับยศให้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ซึ่งกลุ่มของ น.ส.เสาวนีย์ จะแต่งเครื่องแบบทหาร มาร่วมพิธีการดังกล่าว ทำให้ผู้เสียหายยิ่งหลงเชื่อและเข้าใจว่าได้เข้ารับราชการทหารแล้ว

               ต่อมาทางผู้เสียหายได้จ่ายเงินค่าดำเนินการให้กับ น.ส.เสาวนีย์ รวมเป็นเงิน 1.43 ล้านบาท เหตุเกิดในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด นนทบุรี นครนายก และปทุมธานี นับตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย.58 ถึงวันที่ 27 ส.ค.59 ต่อเนื่องกัน แต่ผู้เสียหายมาทราบภายหลังว่าถูก น.ส.เสาวนีย์ กับพวก ร่วมกันหลอกลวงและไม่ได้เข้าเป็นทหารแต่อย่างใด จึงรวมกันเข้าแจ้งความดำเนินคดี โดยทาง พ.ต.อ.สมพงษ์ มอบหมายให้ พ.ต.ท.ธราดล ประสานกับพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. เร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ กระทั่งได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาไว้แล้ว 9 ราย ขณะนี้คงเหลือ น.ส.เสาวนีย์ สุนทร อายุ 24 ปี, นายธณรัสย์ นภิศสิริปภัสร์ อายุ 35 ปี, นายกฤตานนท์ หรือสุภัทร์ มั่งคล้าย อายุ 35 ปี และผู้ต้องหาที่ยังไม่ทราบชื่ออีก 3 ราย ที่ยังอยู่ระหว่างหลบหนีคดี

               สอบสวน น.ส.พนิดา ให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าตนเองก็เป็นหนึ่งในผู้เสียหายถูก น.ส.เสาวนีย์ หลอกลวงว่าสามารถช่วยเหลือให้เข้ารับราชการทหาร สังกัดกรมยุทธศึกษาทหารบก ในตำแหน่ง ร.ต.หญิง แต่หลังจากเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ได้มอบเงินค่าดำเนินการไป 3 แสนบาท แล้ว ต่อมาในเดือนมีนาคม น.ส.เสาวนีย์ ได้นัดหมายให้ตนไปพบที่หน้าที่ทำการภายในกรมยุทธศึกษาทหารบก โดยที่ น.ส.เสาวนีย์ แต่งกายคล้ายเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร มีเสื้อคลุมสีขี้ม้า ออกมารับ แล้วจัดการเกี่ยวกับเรื่องเอกสาร พร้อมกับพาไปตัดเครื่องแบบทหาร ทำให้ตนยิ่งเกิดความเชื่อถือ ซึ่งภายหลังจากเวลาผ่านไปนานกว่า 6 เดือนแล้ว ก็ยังไมได้เข้ารับราชการแต่อย่างใด จึงพยายามสอบถามไปยัง น.ส.เสาวนีย์ แต่กลับถูกบ่ายเบี่ยง สุดท้ายตนไม่สนใจที่จะเข้าเป็นทหารแล้ว จึงขอเงินค่าดำเนินการคืน ซึ่ง น.ส.เสาวนีย์ ยอมคืนเงินให้เพียง 6 หมื่นบาท

               น.ส.พนิดา ให้การอีกว่า นอกจากนี้ในช่วงระหว่าง 6 เดือนที่ตนเข้าใจว่าได้เข้ารับราชการทหารในยศ ร.ต.หญิง แล้ว ยังถูก น.ส.เสาวนีย์ หลอกลวงให้แต่งเครื่องแบบทหารไปที่บ้านพักของ น.ส.เสาวนีย์ เพื่อไปให้โอวาทกับบุคคลที่จะเข้ารับราชการเป็นนายสิบทหารบก อีกด้วย ตนจึงขอยืนยันว่าเป็นผู้ที่ถูกหลอกลวงจาก น.ส.เสาวนีย์ เช่นกัน ทั้งนี้ ชุดจับกุมยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ โดยควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป.รับไว้ดำเนินคดีและขยายผลติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป

               อย่างไรก็ตามในส่วนของการแต่งเครื่องแบบทหารโดยไม่มีสิทธิ นั้น ทางพนักงานสอบสวนได้ประสานไปยังกองบัญชาการกองทัพบก กองบัญชาการกองทัพไทย และสำนักปลัดกระทรวงกลาโหมเพื่อพิจารณาดำเนินคดีในข้อหา แต่งกายเครื่องแบบทหารที่ยังใช้ในราชการโดยไม่มีสิทธิ ตาม พ.ร.บ.เครื่องแบบทหาร มาตรา 6 ต่อไป

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ