จ่อจับ พ.ต.อ.บงการอุ้มสาวทอม-ปมแค้นติดพันกิ๊ก

     ความคืบหน้ากรณีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 3 คนใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน รุ่นนาวาร่า สีดำ เป็นยานพาหนะ ลักพาตัว น.ส.สุภัคสรณ์ พลไธสง อายุ 28 ปี ออกจากห้องเอ 413 อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ภายใน ซ.เพชรเกษม 114 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 13 ธันวาคม ที่ผ่านมา จากนั้นพ่อแม่ของเหยื่อได้เดินทางจาก จ.สระแก้ว ร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. ให้ช่วยติดตามตัวลูกสาวเพราะเกรงว่าจะถูกฆ่าปิดปากนั้น จากการสอบเชื่อว่า น.ส.สุภัคสรณ์ น่าจะเสียชีวิต โดยแก๊งอุ้มดังกล่าวน่าจะเป็นกลุ่มคนมีสีที่มีนายตำรวจ

     รายงานข่าวแจ้งว่า หลังรับเรื่อง พล.ต.ท.ศานิตย์สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งตรวจสอบข้อมูลที่เกิดขึ้นรวมถึงซักถามข้อมูลจากพ่อแม่ของ น.ส.สุภัคสรณ์ อย่างละเอียด ได้ความว่า หลังจากวันที่ 13 ธันวาคม 2559 พยายามติดต่อลูกสาวแต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงโทรศัพท์ไปสอบถามเพื่อนสาวคนสนิทของลูกสาวคือ น.ส.กรรณิกา หรือดาว (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี มีที่พักอาศัยอยู่ใกล้กับที่พักของบุตรสาว และทำงานเป็นนักร้องประจำร้านอาหารแห่งหนึ่ง ย่านพุทธมณฑลสาย 4 ซึ่ง น.ส.กรรณิกาให้คำตอบอ้างว่าลูกสาวถูกอุ้มไปสั่งสอน ทำให้รู้สึกเป็นห่วง เนื่องจากลูกสาวมีอุปนิสัยคล้ายผู้ชายชอบพอกับ น.ส.กรรณิกามานานหลายปี ซึ่งระยะหลังลูกสาวเคยถูกดักทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ รถยนต์ก็ถูกทุบได้รับความเสียหาย จนกระทั่งทราบว่าเหตุที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพราะความหึงหวงของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งสังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และภายหลังทราบว่านายตำรวจคนดังกล่าวให้น.ส.กรรณิกา นำเงินจำนวน 6 หมื่นบาท มาให้ลูกสาวเพื่อให้จบเรื่อง อีกทั้ง น.ส.กรรณิกา เคยขู่ฆ่าลูกสาวเนื่องจากความหึงหวงเช่นเดียวกัน

     ข่าวแจ้งด้วยว่า ข้อมูลทั้งหมดชุดสืบสวนได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในที่เกิดเหตุ ได้รับคำบอกเล่าจากพยานแวดล้อมว่า ในวันเกิดเหตุมีกลุ่มชายฉกรรจ์มาลักพาตัว น.ส.สุภัคสรณ์ไปจริง ซึ่งพยานพยายามตะโกนร้องขอความช่วยเหลือแต่ไม่มีใครช่วย หลังเกิดเหตุทราบว่า น.ส.กรรณิกาเดินทางไปที่ สน.หนองค้างพลู เพื่อแจ้งความคนหาย อย่างไรก็ตาม เมื่อชุดสืบสวนเชิญ น.ส.กรรณิกา ไปสอบปากคำ กลับปฏิเสธอ้างว่าไม่รู้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่เคยข่มขู่ฆ่า น.ส.สุภัคสรณ์ และไม่เคยพูดกับพ่อแม่ว่าถูกอุ้มไปสั่งสอนแต่อย่างใด 

      อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าในการติดตามหาตัว น.ส.สุภัคสรณ์ ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกที่เกิดเหตุโดยพบเส้นทางของคนร้ายที่ลักพาตัว น.ส.สุภัคสรณ์ ขับมุ่งหน้าไปทาง อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี จึงรายงานการสืบสวนสอบสวนให้ พล.ต.ท.ศานิตย์ ทราบ โดยช่วงเช้าของวันที่ 9 มกราคม ชุดสืบสวนหลายนายของกองบัญชาการตำรวจนครบาลเดินทางไปประสานงานกับชุดสืบสวนของกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 เพื่อวางแนวทางติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุซึ่งคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 5 คน

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดสืบสวนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานคือภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพการลักพาตัว น.ส.สุภัคสรณ์ ในวันเกิดเหตุรวมถึงพยานแวดล้อมเพื่อให้พนักงานสอบสวน สน.หนองค้างพลู รวบรวมสำนวนเสนอศาลอาญาธนบุรี พิจารณาอนุมัติหมายจับในเบื้องต้น ประกอบด้วย นายตำรวจยศ พ.ต.อ. 1 นาย ตำรวจชั้นประทวน 3 นาย และนักร้องสาวที่มีความสนิทสนมกับ น.ส.สุภัคสรณ์ อย่างไรก็ตามในแนวทางสอบสวนเชื่อว่า น.ส.สุภัคสรณ์ น่าจะเสียชีวิตแล้ว