รวบแล้วโจ๋แทงทหารดับอ้างโดนด่า-ชุลมุน

 

               5 ธ.ค. 59  เมื่อเวลา 10.00 น.  ร.ต.อ.ชยุต แสงมณี รอง สว.(สอบสวน) สภ.วิเศษชัยชาญ ได้รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตบริเวณด้านข้างหอประชุมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จย่า 90 ภายในวัดนางในธัมมิการาม ต.ศาลเจ้าโรงทอง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.วินัย ตรีราภี รอง ผกก.ป.สภ.วิเศษชัยชาญ เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดอ่างทอง และแพทย์โรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ

               ที่เกิดเหตุพบศพชายนอนหงายจมกองเลือดอยู่บริเวณประตูทางเข้าวัด ด้านข้างหอประชุม สวมเสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงทหารขายาว มีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมที่ชายโครงด้านซ้าย 2 แผล รอบๆ ที่เกิดเหตุพบรอยเลือดเป็นจำนวนมาก และหมวกแก๊ปตกอยู่ 1 ใบ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ต่อมาทราบชื่อผู้ตายคือ นายวีระเทพ เพชรประสม หรือกอล์ฟ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108 หมู่ 2 ต.หนองแม่ไก่ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ปัจจุบันเป็นทหารเกณฑ์สังกัดศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ จ.ลพบุรี

               จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม ที่ผ่านมา นายกอล์ฟพร้อมเพื่อนทหารเกณฑ์ที่เพิ่งกลับมาพักบ้านด้วยกัน ได้มาเที่ยวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเยื้อง รพ.วิเศษชัยชาญ ซึ่งเปิดเป็นลักษณะกึ่งผับ ชื่อร้านช่างหัวมัน โดยนายกอล์ฟนัด น.ส.ตูน ที่รู้จักกันทางเฟซบุ๊กได้เพียงไม่กี่วันว่าจะมาเที่ยวที่ร้านดังกล่าว ก่อนที่จะมาพบกับกลุ่มวัยรุ่นใน อ.โพธิ์ทอง ซึ่งเป็นอดีตแฟนของ น.ส.ตูน แล้วเกิดเขม่นกัน จนเมื่อร้านเลิก และระหว่างเดินทางกลับกลุ่มของนายกอล์ฟและกลุ่มวัยรุ่นอดีตแฟน น.ส.ตูน ได้มาเจอกันที่บริเวณเชิงสะพานใกล้ที่เกิดเหตุและเกิดการชกต่อยกัน ก่อนที่กลุ่มของนายกอล์ฟ ซึ่งมีคนน้อยกว่าได้แยกย้ายกันหนี โดยนายกอล์ฟ ถูกแทงได้รับบาดเจ็บหนีเข้าไปบริเวณจุดที่พบศพ หลบอยู่ข้างหอประชุม จนกระทั่งมีผู้มาพบศพในเช้าวันนี้

               นางนฤมล เพชรประสม อายุ 36 ปี แม่ของนายกอล์ฟ กล่าวว่า เมื่อวานได้ออกตามหาลูกชาย เพราะหลังจากออกมาเที่ยวกับเพื่อนตั้งแต่วันเสาร์แล้วยังไม่กลับบ้าน ซึ่งญาติพยายามโทรติดต่อปรากฏว่าโทรศัพท์อยู่กับเพื่อนทหารอีกคน แล้วเพื่อนคนดังกล่าวกลับเข้ากรมไปแล้ว แต่บอกว่าหลังมีเหตุต่างแยกย้ายกันหนี ไม่ทราบว่านายกอล์ฟถูกแทง และเพื่อนก็หานายกอล์ฟไม่เจอเช่นกัน

               ด้าน ร.ต.อ.ชยุต กล่าวว่า เมื่อวานนี้นางนฤมลได้มาแจ้งความว่านายวีระเทพ ลูกชาย หายตัวไปหลังจากไปเที่ยวและไปมีเรื่องกับวัยรุ่น จนวันนี้ก็มาพบศพนายวีระเทพถูกแทงเสียชีวิต โดยตอนนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปติดตามตัวนายเบียร์ เพื่อนทหารที่ไปเที่ยวด้วยกันและกลับเข้าค่ายไปแล้ว และเตรียมเรียก น.ส.ตูน มาสอบสวนว่า กลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุเป็นใคร ซึ่งเบื้องต้นน่าจะสามารถติตามจับกุมตัวมาได้ไม่ยาก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว เหลือเพียงพยานหลักฐานก็จะสามารถออกหมายจับได้ทันที

               ด้านเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยวีอาร์จังหวัดอ่างทอง ให้การว่า เมื่อคืนที่เกิดเหตุได้ขับรถผ่านบริเวณที่กลุ่มวัยรุ่นมีเรื่องกัน จึงจอดรถลงไปดู แต่กลับถูกกลุ่มวัยรุ่นคนหนึ่งเดินเข้ามากระชากวิทยุปาเข้าไปในป่าและชกที่หน้า 1 ที ก่อนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยจะหนีออกมาติดต่อขอความช่วยเหลือจากเพื่อนกู้ภัย และพากันตามหากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว จนมาพบที่หน้าร้านสะดวกซื้อเยื้องๆกับวัดนางใน เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรวมตัวกันเข้าไปถามถึงสาเหตุที่ถูกทำร้ายปรากฏว่ากลุ่มวัยรุ่นบอกว่าเข้าใจผิด และยังมีอาวุธปืนที่เอวอีกด้วย เจ้าหน้าที่กู้ภัยเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงแยกจากกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวออกมา

 

 

               ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน  พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วย พ.ต.อ.อภิชาติ โกมุติกานนท์ ผกก.สภ.วิเศษชัยชาญ ร่วมกันสอบสวน นายอดิศร หรือ โอ๊ต วงศ์เตียง อายุ 24 ปี และเยาวชนชายอายุ 17 ปี ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุฆ่าพลทหารวีระเทพ

               พ.ต.อ.เอกรักษ์ กล่าวว่า หลังจากพบศพพลทหารวีระเทพ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ลงพื้นที่หาข้อมูลและสืบจนทราบว่าผู้ที่ก่อเหตุฆ่าพลทหารวีระเทพคือ นายอดิศร หรือ โอ๊ต กับพวก จึงเข้าจับกุมตัวได้ในพื้นที่ ต.รำมะสัก อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ซึ่งกำลังนั่งอยู่กับพรรคพวก จึงควบคุมตัวมาสอบสวน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไปเชิญตัวพลทหารพัฒนา ใจปัญญา หรือ เบียร์ เพื่อนของพลทหารวีระเทพ ที่อยู่ในที่เกิดเหตุมาสอบสวน

               จากการสอบสวนนายอดิศร ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุแทงพลทหารวีระเทพ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปเที่ยวที่ร้านอาหารช่างหัวมัน ขากลับได้ขี่รถจักรยานยนต์มากับแฟนและเพื่อนแฟน แต่ผู้ตายกับเพื่อนขี่รถจักรยานยนต์ตามมาตะโกนด่า จากนั้นนายอดิศรได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามไป แต่แฟนนายอดิศรชักกุญแจรถออก ทำให้ตามไปไม่ได้ จากนั้นนายอดิศรโทรศัพท์ตามพวกมาหา แต่พลทหารวีระเทพกลับรถมาเจอก่อน จึงลงจากรถเข้าชกต่อยนายอดิศร ทำให้ทั้งคู่เกิดการต่อสู้กัน ส่วนตอนที่ใช้มีดแทงนายอดิศร บอกว่าไม่มั่นใจว่าแทงตอนไหน ซึ่งหลังจากต่อยกันบนสะพานแล้วก็ตามไปต่อยกันในวัดต่ออีก จากนั้นก็หลบหนีกลับไปบ้าน ซึ่งนายอดิศรยืนยันว่าไม่ได้มีเรื่องกันในร้านอาหารช่างหัวมัน และไม่เคยรู้จักกับคนตายมาก่อน ส่วนผู้หญิงที่ชื่อตูน ก็ไม่ใช่แฟนของนายอดิศร เป็นลูกพี่ลูกน้องของแฟนนายอดิศร โดยญาติผู้ตายเข้าใจผิดว่าผู้หญิงที่ชื่อตูน เป็นแฟนนายอดิศร

               ขณะที่พลทหารพัฒนา ให้การตรงกันว่า หลังจากเลิกเที่ยวร้านอาหารก็ขี่รถมาเจอกลุ่มนายอดิศร และมีปัญหากัน ผู้ตายจึงลงไปต่อยนายอดิศร ทำให้เกิดเหตุชุลมุน โดยพลทหารพัฒนาหนีออกไปก่อน โดยไม่รู้ว่าพลทหารวีระเทพเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ได้แจ้งข้อหานายอดิศร กับพวก ร่วมกันฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนจะเป็นการป้องกันตัวหรือไม่นั้น ก็ว่ากันไปตามกฎหมาย