สุดทน! แม่แจ้งตร.โรงพยาบาลทำศพลูกหาย

          วานนี้(11ต.ค.) ขณะที่ ร.ต.อ.สง่า มูลจัด ร้อยเวร สภ.เมืองสมุทรปราการ ปฎิบัติหน้าที่บนโรงพัก นายสุทธิรัตน์ รั้งกลาง อายุ 32 ปี ได้พานางสาวแดง(นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ซึ่งเป็นน้องสาว เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ หลังจากเมื่อช่วงสายของวันเดียวกันได้เดินทางเพื่อไปรับทารกซึ่งเสียชีวิตจากสาเหตุที่น้องสาวคลอดออกมาก่อนกำหนดที่โรงพยาบาลสมุทรปราการตั้งแต่เมื่อคืนนี้ แต่หลังจากที่เดินทางไปที่ห้องรับศพในวันนี้กลับได้รับแจ้งเจ้าทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลว่า ศพหลานสาวได้หายไปและยังถูกปัดความรับผิดชอบ

 

 

         นายสุทธิรัตน์ รั้งกลาง อายุ 32 ปี พี่ชายของผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อช่วงดึกของวันพุธที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา น้องสาวของตนได้คลอดทารกเป็นเด็กหญิงก่อนกำหนดอายุครรภ์ 6 เดือนครึ่ง ที่บ้านพักบางเมือง อ.เมืองฯ จ.สมุทรปราการ เมื่อคลอดเสร็จจึงได้เรียกรถพยาบาลมารับเพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ จากการตรวจสอบของแพทย์ เด็กยังหายใจมีชีวิตอยู่ จึงต้องนำตัวเข้าห้องอบเด็กของโรงพยาบาลสมุทรปราการ จนวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา เด็กทารกได้เสียชีวิตเนื่องจากหัวใจล้มเหลว กระทั่งในวันนี้ตนได้พาน้องสาวและญาตินำโลงศพขึ้นรถเดินทางมาที่ห้องพักศพโรงพยาบาลสมุทรปราการ เพื่อขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดชัยมงคล จ.สมุทรปราการ หลังดำเนินการเรื่องเอกสารเสร็จ กลับได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ว่าศพทารกได้หายไปจากห้องพักศพ ตนและน้องสาวถึงมึนว่าศพหายไปได้อย่างไร จึงได้เดินเข้าไปดูที่เก็บศพพบว่าศพได้หายไปจริง แต่เมื่อพยายามสอบถามทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกลับไม่ได้รับคำตอบว่าศพหายไปได้อย่างไร เนื่องจากเมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 ตุลาคมตนยังเห็นศพทารกอยู่ในห้องพัก หลังจากไม่ได้รับความชัดเจนจากโรงพยาบาล จึงได้เดินทางมาแจ้งความดังกล่าว

 

 

         ต่อมาผู้สื่อข่าวพร้อมด้วยญาติของผู้เสียหาย ได้เดินทางเข้าพบนายแพทย์สัมพันธ์ คมฤทธิ์ ผอ.รพ.สมุทรปราการ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยนายแพทย์สัมพันธ์ กล่าวว่า หลังทราบเรื่องทางโรงพยาบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งทางโรงพยาบาลยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ เพื่อดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เบื้องต้นยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าคนในมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เนื่องจากต้องรอผลการสอบสวนเจ้าหน้าที่เวรทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าเวรนิติเวช รปภ.ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ห้องพักศพทุกคนว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร เนื่องจากเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมศพยังอยู่ ทั้งนี้น่าจะมีผู้ใดผู้หนึ่งเข้าไปเอาศพ แต่จะเป็นใครนั้นขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำงาน อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้จากการตรวจสอบย้อนหลังไม่พบว่าเรื่องศพหายไม่เคยเกิดขึ้นที่โรงพยาบาลมาก่อน

 

 

         ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปบริเวณหน้าห้องพักศพ ซึ่งอยู่บริเวณลานจอดรถข้างโรงพยาบาล พบเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลฝ่ายดูแลห้องพักศพ กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ตามปกติ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบริเวณช่องเก็บศพ เนื่องจากเป็นกฎของโรงพยาบาล และไม่ได้ให้ข้อมูลที่เกิดขึ้นแต่อย่างใดแต่อย่างใด